พระเจ้ากับอาดัม

การบรรลุแรงกระตุ้นด้วยความหุ้นหันพลันแล่น และอยู่ภายใต้อิทธิพลของอารมณ์ คือสัญชาตญาณ และความเข้าใจในอารมณ์กับความรู้สึกแยกต่างหากจากัน และการตระหนักในความสำคัญของความรู้ความเข้าใจตัวเอง และความรู้ความเข้าใจตัวเองคือธรรมชาติ สัญชาติญาณมีการปรับตัวด้วยขณะที่ธรรมชาติยังคงที่และไม่เปลี่ยนแปลง ธรรมชาติของสิ่งใดก็ตามที่พระเจ้าทรงส้างสรรค์แล้ว จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

พระเจ้าผู้ทรงรอบู้ทรงประทานความรู้ในคุณลักษณะของพระองค์ก็ให้มนุษย์ หลังจากประกาศความสูงส่งของเขาเหนือสัตว์ และสิ่งถูกสร้างอื่นๆตามสติปัญญาแล้ว อาดัมได้รับการสั่งสอนความรู้ที่เชื่อมโยงกันกับคุณลักษณะของพระผู้เป็นเจ้าสูงส่ง คุณลักษณะที่เชื่อมโยงกันนี้หมายถึงพระเจ้าทรงประทานความรู้แห่งคุณลักษณะการสร้างสรรค์ของพระองค์แก่อาดัม มากเท่าที่พระองค์พิจารณาว่ามีความจำเป็น พระนามของพระเจ้าคือคุณลักษณะของพระองค์ เพราะฉะนั้น คุณลักษณะของพระเจ้าจึงสัมพันธ์โดยตรงกับพระองค์ผู้ทรงสูงส่ง โดยที่พระเจ้าคือพระผู้อภิบาลแห่งการสร้างสรรค์ แห่งจักรวาล เพราะฉะนั้น จึงหมายความว่า พระเจ้าทรงประทานความรู้แห่งคุณลักษณะของพระองค์แก่อาดัม ซึ่งเป็นพื้นฐานการสร้างสรรค์จักรวาล พระเจ้าทรงกระทำสิ่งทั้งมวลนี้ เพราะพระองค์ต้องการที่จะเป็นที่รู้จัก ในการรู้จักนั้นจำเป็นที่

อาดัมควรจะมีความรู้เกี่ยวกับคุณลักษณะของพระผู้สร้าง พระเจ้าทรงประทานความรู้แห่งคุณลักษณะของพระองค์แก่สิ่งถูกสร้างอื่นๆ อย่างเทวทูตเช่นเดียวกัน แต่ความรู้เกี่ยวกับคุณลักษณะการสร้างสรรค์ของพระองค์ ทรงประทานให้อาดัมและไม่ถูกเปิดเผยแก่เทวทูต

หมายความว่าพื้นฐานความสูงส่งกว่าของอาดัมคือ ได้รับมอบคุณลักษณะการสร้างสรรค์ของพระเจ้า และเพราะความรู้นี้เองที่อาดัมมีวิธีเข้าไปสู่พระเจ้า นี้มิได้หมายความว่า สิ่งถูกสร้างอื่นไม่คุ้นเคยกับพระเจ้า สิ่งถูกสร้างอื่นตระหนัก และรับรู้ว่าพระผู้สร้างของตนคือพระเจ้า พระองค์ทรงเลี้ยงดูใหสิ่งเหล่านั้นมีชีวิต ตราบที่พระองค์ทรงประสงค์ และทรงเตรียมทรัพยากรธรรมชาติทุกประเภทไว้ให้

ณ ที่นี้ไม่เป็นการออกนอกประเด็นแต่ประการใดที่จะถูกว่า อะไรคือความแตกต่างระหว่างความรู้ของสิ่งถูกสร้างอื่น เมื่อเปรียบเทียบกับความรู้ของมนุษย์ รวมทั้งการรับรู้พระเจ้าของมนุษย์และของสิ่งถูกสร้างอื่นๆ มีความคุ้นเคยอยู่ 2 ประเภท ประเภทแรกเพียงเพื่อให้รู้ว่ามีบางคนอยู่ และเพื่อให้มีมโนคติโดยทั่วไปเกี่ยวกับคุณสมบัติและอัตลักษณ์ของเขา ในขณะที่ประเภทที่สองเกี่ยวกับว่าไม่เพียงแต่เป็นการแนะนำตัวผู้หนึ่งเท่านั้น แต่ยังสามารถเข้าร่วมวงสมาคมกับผู้นั้นด้วย และเพราะวงสมาคมนี้ทำให้เขาสามารถมองเห็น รับฟังและยังสามารถแสดงการยอมจำนนต่อผู้นั้นได้ด้วย

สิ่งถูกสร้างทั้งมวลมีความรู้จากประสบการณ์ในข้อแรกเท่านั้น แต่มนุษย์มีข้อที่สอง ที่เขารู้จักพระเจ้าตามที่พระองค์ทรงประสงค์ให้ตัวพระองค์เองถูกรู้จัก ตามที่มนุษย์ได้รับของขวัญด้วยความรู้แห่งคุณลักษณะของพระเจ้า เพราะฉะนั้น มนุษย์จึงตระหนักในพระเจ้า ภายหลังจากได้กรุยทางไปยังพระองค์แล้ว และการตระหนักนี้มิใช่การตระหนักในลักษณะของลายลักษณ์อักษร แต่เป็นการตระหนักที่แท้จริง เมื่อผู้นั้นเชื่อโดยใจจริงว่า เขาได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยพระผู้อภิบาลผู้ทรงสร้างสรรค์ และความเชื่อมั่นนี้ทำให้มนุษย์มองเห็น (รัศมีของ) พระเจ้า ได้ยิน รู้สึกถึงการปรากฏอยู่ของพระองค์และสื่อสารกับพระเจ้าได้ เมื่อพระเจ้าทรงกล่าวบางสิ่งบางอย่าง เขา

จะรวบรวมคำดำรัสนั้นไว้ด้วยความปิติยินดี และสุขใจอย่างเหลือล้น จนรวมเป็นความรู้ทั้งหมดว่าการดำรงอยู่ของเขา เป็นเพราะความเมตตาและความรักของพระเจ้าผู้ทรงกรุณายิ่ง สิ่งนี้ได้ก่อให้เกิดในจิตใจของมนุษย์อย่างมั่นคงว่า ทุกการเคลื่อนไหว และทุกการกระทำในชีวิตล้วนได้รับการสนับสนุนจากพระเจ้า รวมทั้งกิจกรรมเหล่านั้นเกิดขึ้นได้ เพียงเพราะพระองค์ทรงประทานความแข้งแรงและศักยภาพแก่เขาเพื่อกระทำสิ่งนั้น และยังรวมเป็นความรู้สึกด้วยว่า พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาตามแผนการใดและวัตถุประสงค์ในการสร้างเขาคืออะไร ก่อนจะถือกำเนิดมาที่นี่ เขาดำรงอยู่ในตำแหน่งใด และจะเคลื่อนย้ายไปยังอาณาบริเวณไหน หลังจากตายไปแล้ว มนุษย์จะเปลี่ยนมาตระหนักถึงสถานะของตนในจักรวาล และสาเหตุที่เขากลายเป็นผู้ที่ต้องได้รับการกราบกรานจากบรรดาเทวทูต นั่นคือการอธิบายสถานการณ์ทั้งหมด ในสภาพแวดล้อมที่การประทานตำแหน่งผู้แทนแก่อาดัมเป็นที่กระจ่างชัดสำหรับเขา

สิ่งนี้นำมาซึ่งการพิจารณาอย่างสุขุมรอบคอบของเราว่า ผู้สืบสกุลของอาดัมก็คืออาดัมด้วย และในการเป็นผู้สืบสกุลของอาดม พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่เป็นผู้เห็นเหตุการณ์ที่อาดัมบิดาของพวกเขา เคยเห็นเป็นประจักษ์มาแล้วทั้งหมด ถ้ามนุษย์ในฐานะเป็นผู้สืบสกุลของอาดัม ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อาดัมเคยเห็นมาแล้ว นั่นคือเห็นบรรดาเทวทูตกราบกรานต่อเขา การสนทนาระหว่างพระเจ้ากับบรรดาเทาทูต การประกาศของพระเจ้าว่า พระองค์ทรงสอนความรู้แห่งคุณลักษณะของพระองค์แก่อาดัม การยอมสยบของเทวทูตที่ว่าพวกเขารู้เพียงสิ่งที่ได้รับการสั่งสอน ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วผู้นั้นก็ไม่อยู่ในหมู่ทายาทที่แท้จริงของอาดัม ถ้ามนุษย์ไม่สามารถมองเห็นภาพยนตร์ฉบับสมบูรณ์ที่อธิบายเหตุการณ์เหล่านี้ทั้งหมดแล้ว เขาก็ไม่อาจเป็นผู้รับมรดกของอาดัม ซึ่งเป็นพระเจ้าทรงประกาศว่า เป็นผู้ช่วยและตัวแทนของพระองค์บนโลกนี้ และถ้าผู้ใดไม่รู้วิธีการที่จะใช้อำนาจในนามของผู้มีอำนาจ (ที่แท้จริง) ดังนั้น เขาจึงไม่ใช่ผู้ช่วยหรือคู่ควรที่จะได้รับการเรียกขานว่า เป็นผู้สำเร็จราชการแทนแต่ประการใดเลย

ผลสรุปของการพิจารณานี้คือ ถ้ามนุษย์ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์วาระแรก และไม่สังเกตเห็นเหตุการณ์ซึ่งพิสูจน์ว่าเป็นพื้นฐานแห่งความเป็นผู้แทนของอาดัมแล้ว มนุษย์ก็ไม่สามารถที่จะได้รับการพิจารณาว่า คู่ควรจะได้รับมรดกชิ้นนี้ และถ้าเพียงบนพื้นฐานความเหมือนทางกายภาพของเขากับอาดัม ก็ประกาศตัวว่า เป็นผู้สืบสกุลของอาดัมแล้ว เขาก็ไม่อาจได้รับการพิจารณาเป็นอย่างใดได้ นอกจากเป็นทายาทที่ไม่เชื่อฟังและสร้างความตกต่ำให้ เพราะเขาไม่ได้รับมรดกของบิดา ผู้ที่ถูกกีดกันจากลักษณะที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมคือผู้ที่เสื่อมทรามลงอย่างโชคร้าย และคงอยู่ในความยากจนข้นแค้น ถ้าผู้ใดลืมความรู้เกี่ยวกับนามชื่อของพระเจ้า เขาก็ไม่อาจเป็นตัวแทนของพระองค์บนโลกนี้ได้ สาเหตุที่แท้จริง ซึ่งมนุษย์ได้รับสถานภาพที่สูงส่ง เพียงเพราะความรู้ในนามชื่อของพระเจ้าเท่านั้น เพราะความรู้นี้เขาจึงได้เป็นผู้ช่วยและตัวแทนของพระองค์ และโดยที่มนุษย์คือผู้แทนของพระเจ้า เพราะฉะนั้น เขาจึงได้รับการกำเนิดอำนาจที่จะใช้และปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจทั้งมวลของพระองค์ที่มอบให้กระทำการแทนในการเป็นผู้สร้างจักรวาล พลังอำนาจของพระเจ้ารวมทั้งพลังในการสร้างสรรค์ด้วย และมนุษย์เป็นผู้มีอำนาจการปฏิบัติหน้าที่ในพลังแห่งการสร้างสรรค์นี้

เพื่อแนะนำตัวพระองค์เอง พระเจ้าผู้ทรงสูงส่ง ทรงกล่าวว่า

“ฉันคือ ผู้ดีที่สุดในบรรดาผู้สร้างสรรค์”

สิ่งนี้อธิบายอย่างชัดเจนว่า พระเจ้าทรงสูงส่ง ทรงมอบศักยภาพในการสร้างสรรค์ของพระองค์ให้สิ่งอื่นด้วย แต่พระองค์เป็นแหล่งกำเนิดของศักยภาพเหล่านี้ พระองค์คือผู้ที่ดีที่สุดในบรรดาผู้ที่ได้รับมอบศักยภาพการสร้างสรรค์ ศักยภาพในการสร้าสรรค์นี้ได้ถูกแสดงไว้ในคัมภีร์ อัลกุรอาน โดยคุณลักษณะและบรรดานามชื่อของพระเจ้า เกี่ยวกับเรื่องนี้พระเจ้าผู้ทรงสูงส่ง ทรงกล่าวไว้อย่างงดงามว่า

“และเราได้สอนความรู้เกี่ยวกับนามชื่อให้แก่อาดัม”

นามชื่อเหล่านั้นคือบรรดานามชื่อของพระเจ้า ซึ่งเป็นสูตรการสร้างสรรค์ที่ทำให้การดำรงอยู่ของจักรวาลเป็นไปได้ หลังจากนำมันมาสู่ชีวิต