Topics
อดีต ปัจจุบัน
และอนาคตโดยพื้นฐานแล้วคือสภาพของการตื่นอยู่และการนอนหลับ
โดยปกติแล้วการนอนหลับไม่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นชีวิตที่กระตือรือร้น
เมื่อนักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์กายภาพเกิดต้องกล่าวถึงเกี่ยวกับการนอนหลับและโลกของความฝัน
พวกเขาจะ
เพิกเฉยด้วยการกล่าวถึงในฐานะเป็นเรื่องมายาคติ
และจินตนาการ ขณะที่ชีวิตความฝันและการตื่นอยู่ไม่ใช่สองสิ่งที่แยกและแตกต่างกัน
เป็นเพียงการแบ่งระดับชั้นของความรู้สึกทางวัตถุ เราพบกว่า
ตัวเราเองถูกหักห้ามและถูกกำจัด และในความรู้สึกของความฝัน
เราเป็นอิสระจากขอบเขตจำกัด
ด้วยความแตกต่างของอิสรภาพของจำกัดการเดินทางของชีวิตท่องเที่ยวอยู่ใน 2
สภาวะของความฝันและการตื่นอยู่นี้
สิ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถแนะนำเราด้วยเรื่องราวของความรู้สึกทั้งสองได้ในเวลาเดียวกันคือ
มุรอกะบะฮ์ (อุตรวิสัยสมาธิ)
เมื่อรู้สึกอ่อนเพลียและเส้นประสาทไม่สามารถรับความกดดันของความจำกัดได้อีกต่อไป
เราอยากเข้าไปในสภาพที่ไม่มีข้อจำกัด เมื่อบุคคคลหนึ่งต้องการที่จะผ่อนคลายจากความอ่อนเพลีย
และตั้งใจที่จะปลดปล่อยตัวเองจากปัญหาทางโลก ความห่วงใยและวิตกกังวล
ผู้นั้นก็จะถูกนำไปสู่โลกที่รู้กันว่าการนอนหลับ
แบบแผนหนึ่งในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในความรู้สึกเกี่ยวกับกลางวันน
คือการไปนอน เนื่องจากความอ่อนเพลีย และเหน็ดเหนื่อย อีกแบบแผนหนึ่งคือการเปลี่ยนสภาพไปสู่ความรู้สึกเกี่ยวกับกลางคืนท้งที่ตื่นอยู่
อย่างตั้งใจและอย่างเจตนา ด้วยระบบประสาทที่ได้รับการผ่อนคลาย
การพัฒนาและความก้าวหน้าใน E.S.P. (Extra
Sensory Perception- ประสาทสัมผัสความรู้สึกพิเศษ)
สัมพันธ์โดยตรงกับการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกเกี่ยวกับกลางคืนในสภาพการตื่นอยู่
เมื่อบุคคลหนึ่งล้มตัวลงนอนหลับ
ก่อนอื่นใดความตึงเครียดของเส้นประสาทจะถูกแทนที่ด้วยการผ่อนคลายและความเคลิบเคลิ้ม
ตาเริ่มหนักขึ้นการเคลื่อนไหวของนัยน์ตาค่อยๆ
หยุดชะงักและสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นปกคลุมไปทั่ว ณ ขั้นตอนนี้ความรู้สึกของจิตสำนึกเริ่มเปลี่ยนแปลงไปสู่ความรู้สึกของจิตไร้สำนึก
เมื่ออาการครึ่งหลับครึ่งตื่นไปถึงขีดสุด ผู้หนึ่งดูเหมือนนอนหลับนั่นคือ
เมื่อความรู้สึกของจิตสำนึกเปลี่ยนไปสู่ความรู้สึกของจิตไร้สำนึกอย่างสมบูรณ์
ผู้นั้นก็จะนอนหลับอย่างรวดเร็ว นี่คือเรื่องปกติอย่างหนึ่งในชีวิตของเรา
และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็ปฏิบัติอย่าต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับที่มนุษย์ถูกบังคับให้นอนเมื่อเขาเหนื่อยอ่อน อิดโรย
อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แพะ แมว
นกพิราบ นกกระจอก ปลา
ก็เช่นกันถูกบังคับให้เปลี่ยนแปลงจากความรู้สึกเกี่ยวกับกลางวัน ไปสู่ความรู้สึกเกี่ยวกับกลางวัน
กระบวนการหมุนเวียนของการนอนหลังจากตื่นขึ้น และการตื่นขึ้นหลังจากการนอน
พบได้ในสิ่งถูกสร้างทุกชนิดของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงรังสรรค์ ผู้ทรงสูงส่งยิ่วง
อาดัม
ได้รับมอบความรู้เกี่ยวกับคุณลักษณะของพระเจ้า ซึ่งพระเจ้าผู้ทรงรอบรู้ไม่ได้มอบให้สิ่งถูกสร้างอื่นใดเลย
องค์ความรู้ทั้งมวลเกี่ยวกับคุณลักษณะของพระองค์ ประกอบด้วยวิวรณ์ลับ (Secret Revelation) ความลับของการวิวรณ์มีวัตถุประสงค์ในการที่พระเจ้าทรงมอบหมายพลังเหล่านั้นให้มนุษย์
ซึ่งทำให้เขาเข้าไปสู่อาณาบริเวณที่มองไม่เห็นได้ง่ายขึ้น โดยที่พระองค์ทรงปราถนาที่จะให้มนุษย์ต้องเป็นพยานในความเป็นผู้เชี่ยวชาญของพระองค์หลังจากเข้าไปในอาณาบริเวณที่มองไม่เห็นแล้ว
รับรู้และมีความสามารถในการเข้าใจคุณลักษณะของพระองค์ เพราะฉะนั้น
จึงกลายเป็นความจำเป็นว่า มนุษย์ควรต้องได้รับการกำหนดด้วยความสามารถเหล่านั้น ซึ่งทำให้บรรลุเป้าหมายของพระผู้อภิบาลผู้ทรงสร้างได้ง่ายขึ้น
ชีวิตที่ถูกคุมขังคือการตื่นอยู่และชีวิตที่อิสระคือโลกของการนอน
ผู้ใดก็ตามที่สามารถเข้าไปสู่โลกแห่งความฝัน (การนอน) ผ่านทางมุรอกอบะฮ์
ได้อย่างง่ายดาย ในความเป็นจริง มุรอกอบะฮ์คือพฤติกรรมการณ์ของความฝันในสภาพที่ยังคงตื่นอยู่
นั้นคือบุคคลผู้หนึ่งมองเห็นโลกของความฝันในความรู้สึกของจิตสำนึกด้วยความตระหนักแท้จริงในสภาพรอบๆ
ตัว
ตัวอย่าง
บุคคลผู้หนึ่งเขียนจดหมายไปหาเพื่อน ระหว่างที่เขียนจดหมาย
จิตใจของเขาซึมซาบเขาไปในงาน มือยุ่งอยู่กับการเขียน การรับรู้สภาพรอบๆ
ตัวก็ยังคงมีอยู่ ถ้ามีคนกำลังพูด เขาก็เข้าใจในคำพูดนั้น
และหากรู้สึกว่ามีความจำเป็นต้องตอบโต้คำพูดดังกล่าว เขาก็กล่าวคำพูดออกไป
ถ้าอากาศเย็นเขาก็รู้สึกหนาว และถ้าอากาศร้อนเขาก็รูสึกเหนอะหนะ
ทั้งหมดนี้กรกะทำไปในเวลาเดียวกัน ทั้งที่จิตใจยังคงมุ่งไปที่เรื่องเขียนจดหมาย
เนื้อหา และความหมายของจดหมายดังกล่าว
นั่นหมายความว่า
บุคคลใช้ประโยชน์จากความสามารถมากมายของตนในเวลาเดียวกัน ในทำนองเดียวกัน
เมื่อบุคคลผู้หนึ่งจัดการตัวเองกับความรู้สึกเกี่ยวกับกลางคืน
ศักยภาพมากมายมหาศาลในตัวเขาเปลี่ยนเป็นความกระตือรือร้น
และด้วยการที่ยังอยู่ในโลกของการตื่นอยู่
เขาก็ยังสามารถมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในโลกที่มองไม่เห็น
ใช้ประโยชน์ของความรู้สึกทางอภิปรัชญาที่ได้รับอย่างเหมาะสม
ควาญะฮ ชัมซุดดีน อะซีมี
และถูกนำเสนอในเชิงวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในระดับสากล
คนส่วนใหญ่รู้จักควาญะฮ์ชัมซุดดีน
อะซีมี เพราะรูปแบบการเขียนที่เป็นเลิศ ท่านเป็นเจ้าของหนังสือมากกว่า 13 เล่ม
รวมทั้งแผ่นพับ และเอกสารต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งพูดถึงขอบข่ายความรู้สึกทางด้านอภิปรัชญา
นอกจากกลวิธีการเขียนที่ดีเลิศแล้ว
สำนวนภาษาที่ใช้ยังง่ายต่อความเข้าใจของคนทั่วไปด้วย
ผลงานของท่านในการสร้างความเป็นวิทยาศาสตร์
และความเป็นสถาบันให้กับองค์ความรู้เก่าแก่ ที่ท่านรับมาจากครูของท่าน
ไม่อาจกล่าวเป็นอื่นได้นอกจากความโดดเด่นน่าสนใจ
ควาญะฮ์ ชัมซุดดีน
อะซีมี ซึ่งได้รับการฝึกฝนจากครูของท่านคือท่าน กอลันดาร บาบา เอาลิยาอ์