จินตนาการ ๑

ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มพำนักอยู่ในโลกนี้ อาดัม (มนุษย์) ได้รับความรู้แล้วว่า มีพลังอำนาจที่ซ่อนอยู่ซึ่งรับผิดชอบในการจัดเตรียมปัจจัยยังชีพสำหรับชีวิตดำรงอยู่ในโลก เมื่อเมล็ดพืชถูกหว่านลงไปในดิน จะสังเกตเห็นอยู่เสมอทีเดียวว่า ศักยภาพในเมล็ดพืชถูกทวีคูณขึ้น หลังจากผสมกับพลังที่ซ่อนอยู่ในพื้นดิน เป็นเหตุให้เกิดการดำรงอยู่และการปรากฏตัวของสิ่งอื่นๆ ในเชิงวิทยาศาสตร์ สิ่งนี้อาจกล่าวได้ว่า เมื่อหลังจากผสมกับพลังงานที่ซ่อนอยู่ในพื้นดินแล้ว พลังงานที่ซ่อนอยู่ของเมล็ดพืช จึงแสดงตัวเองด้วยผลลัพธ์ที่ตามมา ในรูปของพืชที่เจริญเติบโตเป็นต้นไม้และ

ให้ดอกผล แต่สำหรับนักวิทยาศาสตร์ในยุคนี้ก็ยังอยู่ในความเคลือบคลุมว่า อะไรคือความเป็นจริงและเป็นปฐมเหตุของพลังงานที่ซ่อนอยู่ในเมล็ดพืชและพื้นดิน

เพื่อความเข้าใจเรื่องที่สำคัญนี้ในคำพูดง่ายๆ สามารถกล่าวได้ว่า เมล็ดพืชคือลักษณะของการหาเอกลักษณ์แห่งสิ่งมีชีวิตที่ดำรงอยู่ และต้นไม้ที่สำแดงออกมาเนื่องจากเมล็ดพืชนี้คืออัตลักษณ์ทางคุณลักษณ์แห่งธรรมชาติดังกล่าว คุณสมบัติอื่นๆ ของเมล็ดพืชก็คือ เมื่อแสดงอัตลักษณ์ทางคุณลักษณ์แห่งธรรมชาติ หลังจากกลายเป็นต้นไม้ที่ออกดอกดังกล่าวแล้ว ต้นไม้เหล่านี้ก็ให้เมล็ดด้วย เมล็ดพืชเหล่านี้ แสดงรูปพรรณสัณฐานของตัวเองในรูปของใบที่มีการออกแบบเฉพาะ และจนกระทั่งบัดนี้เรายังต้องค้นหาวิธีการคำนวณ ซึ่งทำให้สามารถนับจำนวนใบไม้บนต้นไม้ทั้งหมดได้ สติปัญญาของมนุษย์นั้นจำกัดขนาดที่ว่า ไม่สามารถรวบรวมการแพร่กระจายทั้งหมดของเมล็ดพืชได้ เมื่อบุคคลทางด้านจิตวิญญาณพิจารณาใคร่ครวญเกี่ยวกับเมล็ดพืชในขอบข่ายของความเข้าใจอีกซึ่งก็จะพบว่าเมล็ดพืชดังกล่าว คือปรากฏการณ์แห่งคุณลักษณะ

เมื่อเราพบว่าตัวเองไร้ความสามารถที่จะกำหนดลักษณะพิเศษ คุณสมบัติและคุณภาพของเมล็ดพืชเม็ดกระจ้อยร่อย เนื่องจากสมรรถภาพอันจำกัดในการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของจิตสำนึก ดังนั้น ในท้ายที่สุดเราต้องยอมรับว่า ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อคุณลักษณะของพระเจ้าอยู่นอกเหนือขอบข่ายสติปัญญาและจิตสำนึกของมนุษย์ซึ่งมีแต่ขอบเขตจำกัด เพราะฉะนั้น เราจึงถูกบีบบังคับให้แสวงหาความช่วยเหลือจากแบบแผนที่สามารถทำให้ก้าวข้ามขอบเขตปริมณฑลของสติปัญญาและจิตสำนึกของมนุษย์ไปได้

เพื่อความคุ้นเคยของตัวเอรากับอาณาบริเวณที่อยู่นอกเหนือขอบเขตทางสติปัญญาและเหตุผลของมนุษย์ มุรอกอบะฮ์ คือแบบแผนหนึ่ง ซึ่งสามารถทำให้เราพัฒนาความสามารถทางสมาธิ และเพื่อศึกษาการเพ่งความตั้งใจอย่างรู้แจ้งแทงตลอด เมื่อผู้มีการศึกษาซึ่งสับสนจากทฤษฎีวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ต่างๆ ที่ขัดกัน และบรรดานักวิชาการที่อ้างกิจกรรมเกี่ยวกับสติปัญญาและการเรียนรู้มากเกินไป ซึ่งบังเอิญสนใจศาสตร์ทางด้านจิตวิญญาณ พวกเขากลับล้มเหลวในการแสดง

ความเข้าใจอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อศาสตร์เหล่านี้ เพราะพยายามทำความเข้าใจหัวข้อที่ไม่มีสิ้นสุด โดยใช้ความช่วยเหลือของสติปัญญาอันจำกัดของมนุษย์ นั่นคือพยายามจำกัดสิ่งที่ไม่มีขอบเขตให้มาอยู่ในขอบเขตจำกัดของมนุษย์ นั่นคือพยายามจำกัดสิ่งที่ไม่มีขอบเขตให้มาอยู่ในขอบเขตจำกัด พวกเขาประกาศว่าจิตวิญญาณนิยมคือกลอุบายของจินตนาการ ทรรศนะนี้ดักพวกเขาไว้ในกับดักของขอบเขตการคาดเดา ซึ่งขวางกั้นพวกเขาจากการสืบเสาะสำรวจในทิศทางนี้

ตราบเท่าที่จินตนาการได้รับการพิจารณา ไม่มีสิ่งใดสามารถดำรงอยู่โดยปราศจากข้อผูกมัดของจินตนาการ การปฏิบัติภารกิจ และกิจกรรมต่างๆ ของชีวิตวางอยู่บนจินตนาการ นักวิชาการกล่าวถึงจิตวิญญาณนิยมว่าเป็นผลผลิตของจินตนาการ แต่ไม่ได้ให้คำจำกัดความว่าจินตนาการคืออะไร ทั้งหมดที่ถูกค้นพบ การพัฒนา ความก้าวหน้าที่กระทำไปจนกระทั่งบัดนี้ จะไม่มีความสำเร็จใดๆ เลย นอกจากผลการใช้พลังจินตนาการอย่างเหมาะสมที่ออกมาในขั้นสุดท้าย

ตัวอย่างเช่น นักวิทยาศาสตร์มีมโนคติที่ว่า สมควรจะมีอาวุธซึ่งสามารถสังหารผู้คนได้นับพันคนในเวลาเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ คิดประดิษฐ์อุปกรณ์จับคลื่นเสียงที่ถ่ายทอดมาจากเครื่องส่งสัญญาณ ยิ่งกว่านั้นคนอื่นๆ อีกเกิดมโนคติว่า ควรจะมีจอภาพซึ่งสามารถแสดงภาพที่อยู่ห่างไกลออกไปได้ การประดิษฐ์ทั้งหมดเป็นไปได้ เพราะบุคคลคนหนึ่งหรือบุคคลเหล่านั้นเพ้อฝัน และจินตนาการเหล่านี้กระตุ้นการแสวงหาและการวิจัย ซึ่งมีผลทำให้เรื่องในจินตนาการเหล่านี้กระตุ้นการแสวงหาและการวิจัย ซึ่งมีผลทำให้เรื่องในจินตนาการของพวกเขาเป็นจริงขึ้นมาในนามของการประดิษฐ์ คำถามก็คือถ้านักวิทยาศาสตร์ที่ทำให้จินตนาการของคนลุล่วงไป ไม่ได้เพ่งความสนใจไปยังจินตนาการที่จะประดิษฐ์แล้ว จะเป็นไปได้อย่างไร ที่การประดิษฐ์ดังกล่าวจะได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมา

เป็นคำกล่าวที่ไม่ถูกต้องและเขลาว่า จิตวิญญาณนิยมเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นจินตนาการ ในเชิงของศาสตร์ทางจิตวิญญาณ ความคิดคือข้อมูลที่เพ่งไปยังตำแหน่งหนึ่งอย่างไม่ลดละ และเมื่อความคิดหรือข้อมูลยังคงได้รับการเพ่ง ณ ตำแหน่งซึ่งดำรงอยู่ในความคิด ท้ายที่สุดก็การมีอยู่

ซึ่งถูกแสดงออกด้วยคุณสมบัติและคุณลักษณะทั้งหมดของมัน เมื่อบุคคลทางจิตวิญญาณกล่าวถึงต้นโอ๊ค เขาจะบอกว่า เมล็ดพืชได้เพ่งความคิดของมันไปยังจุดหนึ่ง เพื่อสำแดงคุณสมบัติและคุณลักษณะของตนเอง การเพ่งความคิดของเมล็ดพืช ทำให้เกิดการแสดงคุณลักษณะ และรูปพรรณสัณฐาน ในรูปของต้นไม้ใหญ่คือ ซึ่งขั้นบนพื้นผิวโลก

กฎ ในความเป็นจริง ลักษณะพิเศษ คุณสมบัติและคุณลักษณะ คือคลังข้อมูลในตัวมนุษย์ เมื่อข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมด ถูกเพ่งไปยังตำแหน่งเดียวภายใต้อิทธิพลของพลังสมาธิ ความคิดจะกระตุ้นข้อมูลที่ไม่มีที่สิ้นสุดและผู้หนึ่งจะเริ่มเห็นภาพของปรากฏการณ์