Topics

คนตาบอด

ในความเป็นจริง เมื่อบุคคลหนึ่งเสียชีวิตเขาได้เข้าไปสู่อีกโลกหนึ่ง ที่ข้อจำกัดของที่ว่างและเวลาไม่มีอยู่อีกต่อไป การไม่มีข้อจำกัดอยู่คือ สิ่งหนึ่งและการไม่มีกาลเทศะอยู่ คืออีกสิ่งหนึ่งที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง หลังการสูญสลายไปแล้ว ผู้ที่สูญสลายไปจะได้รับการเคลื่อนย้ายไปสู่โลก แห่ง

การชำระ (อะอ์รอฟ) ประสบการณ์กาลเทศะยังคงอยู่ในจิตใจขอบเขา เหมือนกับที่ผู้หนึ่งถูกจำกัดให้อาศัยอยู่ใต้หลังคาบ้านและจำเป็นต้องบริโภคอาหารในชีวิตโลกนี้ ในอะอ์รอฟ ก็จำเป็นที่บุคคลผู้หนึ่งจะต้องมีบ้าน การจัดส่งอาหารและมีคนที่จะพูดคุยสนทนาด้วย ชีวิตหลังความตายมิได้แตกต่างนักกับชีวิตที่นี่ มนุษย์ได้รับประสบการณ์ของอารมณ์ความรู้สึก เหมือนที่มีประสบการณ์ในโลกนี้

ความแตกต่างประการเดียวก็คือ ร่างกายที่เป็นเนื้อหนังมังสาและกระดูกได้ผสมปนเปไปกับพื้นดินจนกลายเป็นฝุ่นธุลี หลังละจากร่างกายที่เป็นวัตถุธาต แล้ววิญญาณได้สร้างร่างใหม่ของตนเองขึ้นในอะอ์รอฟ ร่างกายดังกล่าวยังคงมีความสัมพันธ์กับความต้องการและความปรารถนาต่างๆ มากมายเหมือนชีวิตในโลกนี้ ในวิถีทางเดียวกัน แม้ในชีวิตหลังความตาย ก็มีความรู้สึกและการบรรลุความต้องการและความปรารถนา มนุษย์มีความรู้สึกหิวกระหาย และเพื่อขจัดความหิวกระหายดังกล่าว เขาก็กินอาหารและดื่มน้ำ มนุษย์ยังมีชีวิตผ่านความเศร้าโศกและความพึงพอใจในความเพลิดเพลินของช่วงเวลาแห่งความสุขในครั้งแรกดูเหมือนว่า ยังไม่เห็นความแตกต่างระหว่างชีวิตในโลกนี้กับชีวิตหลังความตาย ในความเป็นจริงความแตกต่างก็คือความเร็วของจิตสำนึก ในชีวิตหลังความตาย การทำงานของจิตสำนึกมีความรวดเร็วจนกระทั่งงานปกติในโลกนี้ ที่ต้องใช้เวลานับเดือนเพื่อทำให้เสร็จ สามารถทำสำเร็จได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงในโลกนี้จะต้องใช้เครื่องบิน ขณะที่ในโลกหลังความตาย แม้การเดินทางนานเป็นปี ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องบิน ความเร็วของจิตใจทำงานเหมือนเครื่องบิน ทั้งหมดนี้เกี่ยวกับอาณาบริเวณที่ ไม่ว่ามีความตั้งใจที่จะไปหรือไม่เราก็ต้องไป ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับผู้ใดทั้งสิ้น ผู้ที่เคยเกิดในโลกแห่งปรากฏการณ์ (วัตถุ) นี้ ต้องไปยังอาณาบริเวณดังกล่าว ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม

เรามีความคุ้นเคย กับปรากฏการณ์แห่งความฝัน ในโลกแห่งการชำระ (อะอ์รอฟ) สถานการณ์เช่นเดียวกันนั้นโดยสรุปแล้วเกิดขึ้นจริง สิ่งนี้สามารถกล่าวได้ว่า ความฝันของโลกแห่งปรากฏการณ์นี้ กลายเป็นชีวิตที่ตื่นตัวของในอะอ์รอฟ ม่านกั้นระหว่างสิ่งที่มองไม่เห็นกับสิ่งที่

ปรากฏอยู่ถูกเลิกออกหลังความตาย แต่ม่านกั้นระหว่างจิตใจที่ไม่เชื่อฟังซึ่งก็คือจิตสำนึกกับสวนสวรรค์ ยังคงอยู่ไม่ถูกขจัดออกไป นอกจากจะถูกเลิกออกไปในโลกนี้ ถ้าบุคคลหนึ่งไม่ได้รับการปลดปล่อยจากจิตที่ไม่เชื่อฟังในโลกแห่งปรากฏการณ์นี้แล้ว สิ่งเดียวกันนี้จะยังคงมีอำนาจเหนือเขาอยู่ แม้หลังจากตายไปแล้ว ลักษณะสำคัญที่สุดของชีวิตที่หัวใจดังกล่าวควบคุมอยู่คือความทุกข์ระทม ความเจ็บปวดรวดร้าว ความยากลำบาก ความตึงเครียด ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคต ความขัดแย้ง ความหวาดกลัวและความหวาดระแวงไม่ว่าชีวิตในโลกนี้หรือโลกหน้า ถ้าในโลกนี้บางคนมีความกังวลใจ ภายใต้อิทธิพลของจิตใจประเภทนี้ ดังนั้นเขาจะยังคงมีความกังวลใจอยู่ แม้เมื่อตายไปแล้ว

ตามกฎที่กำหนดโดยพระเจ้าผู้ทรงสูงส่ง เกี่ยวกับการเลิกม่านที่ปิดบังระหว่างจิตใจที่เชื่อฟังกับจิตใจที่ไม่เชื่อฟัง นั่นคือจิตสำนึกและจิตไร้สำนึก มีความจำเป็นที่ว่า สวรรค์ ซึ่งเป็นสถานพำนักที่แท้จริงของมนุษย์ จะต้องได้รับการพิสูจน์ในโลกนี้ ถ้าตัวมนุษย์ไม่อาจคุ้นเคยชีวิตแห่งสวนสวรรค์ในโลกนี้ได้แล้วเขาจะไม่มีโอกาสเข้าสู่ประตูสวรรค์ในชีวิตหลังความตาย คัมภีร์ อัล กุรอานอธิบายสิ่งนี้อย่างชัดแจ้ง ด้วยการบอกเราเกี่ยวกับผู้คน 2 ระดับชั้น ซึ่งอาศัยอยู่ใน 2 อาณาบริเวณ ที่เรียกว่า ซิจญีน และอิลลีญีน

และอันใดเล่าทำให้เจ้ารู้ได้ว่า อิลลีญีน คืออะไร และอันใดเล่าทำให้เจ้ารู้ได้ว่าซิจญีน คืออะไร คือบันทึกที่ถูกจารึกไว้ บันทึกซึ่งในนั้นทุกการกระทำ ทุกการเคลื่อนไหวทุกกิริยาท่าทาง และทุกลมหายใจของชีวิตได้รับการบันทึก

นั่นคือ บันทึกซึ่งทุกความเคลื่อนไหวและทุกลักษณะของชีวิตมนุษย์ได้รับการบันทึกไว้เหมือนฟิล์มภาพยนตร์

ทุกการกระทำที่ปฏิบัติในชีวิตแห่งโลกนี้คือภาพที่ถูกบันทึกไว้ ถ้ามนุษย์มุ่งหน้าไปสู่สวนสวรรค์แล้ว การเดินทางทั้งหมดจะได้รับการบันทึกว่า เป็นการเดินทางบนหนทางที่เที่ยงตรง แต่

ถ้าบางคนหลงทางไป ดังนั้นทุกอย่างก้าวจะมุ่งไปสู่นรก หรือกล่าวได้ว่ ฟิลม์ภาพยนตร์ ของบุคคลผู้นั้นจบลงในนรก

เมื่อบุคคลผู้หนึ่งเสียชีวิต ณ เวลาที่การทำหน้าที่ซึ่งพระเจ้าทรงแต่งตั้งให้ปฏิบัติในโลกนี้อย่างสมบูรณ์แล้ว ตามเจตนารมณ์และแผนการของเขา ในชีวิตหลังความตาย เขาจะดูฟิลม์ภาพยนตร์ที่สร้างเกี่ยวกับชีวิตของเขาในโลกนี้ ถ้าชีวิตในโลกนี้ใช้ไปในการเดินทางบนเส้นทาง ซึ่งนำเขาออกจากสวนสวรรค์ไปสู่ขุมนรก ดังนั้น ภาพยนตร์ที่เขาได้ดู ณ สถานที่ดังกล่าว จะยังคงเตือนว่า เขาได้มุ่งหน้าไปสู่นรก และถ้าเขาอาศัยอยู่ในโลกนี้ตามกฎเกณฑ์ของ พระเจ้าโดยเห็นแก่พระองค์เท่านั้นแล้ว ภาพยนตร์ที่ดูจากที่นั่นก็จะแสดงว่าเขาได้มุ่งหน้าไปสู่สวนสวรรค์ และควรได้รับความโปรดปรานของสวนสวรรค์

กฎ ถ้าบุคคลหนึ่งไม่เห็นสวนสวรรค์ในโลกนี้ ดังนั้น ชีวิตแห่งสวนสวรรค์ก็จะไม่ได้รับการบันทึกในสวนสวรรค์แห่งชีวิตของเขา สิ่งนี้ท่านศาสดา (ขอความสันติพึงมีแด่ท่านและลูกหลาน) กล่าไว้ดังต่อไปนี้

จงมองดูความตายก่อนตายจริง

การมองดูความตายก่อนที่คนหนึ่งจะตายจริงๆ มิได้หมายความว่า จะต้องหยุดการกินอาหารเพื่อฆ่าตวตาย ละทิ้งบ้านเมืองไปใช้ชีวิตในป่า เลิกสวมใส่เสื้อผ้า ตัดขาดจากลูกๆ และพ่อแม่ การมองเห็นความตายก่อนที่คนหนึ่งจะตายจริงๆ หมายความว่า บุคคลผู้นั้นควรจะมีความคุ้นเคยกับชีวิตหลังความตาย เมื่อคนที่มีชีวิตอยู่ในโลกของวัตถุ ได้สร้างความคุ้นเคยกับชีวิตหลังความตาย เขาจะสังเกตเห็นว่า อิลลีญีนคือชนชั้นอภิสิทธิ์ ซึ่งความกรุณาของพระผู้อภิบาลถูก ประทานแก่พวกเขา และพวกเขาคือผู้ที่ได้รับความโปรดปรานด้วยความปลื้มปิติ และซิจญีนคือกลุ่มชนที่ถูกตัดสิทธิ์ มีความเศร้าโศกและถูกตัดสินว่า กระทำความผิด เนื่องจากากรกระที่ผิดพลาด

เป็นคำตัดสินของคัมภีร์ กุรอานว่า ถ้าบุคคลหนึ่งตาบอดในชีวิตนี้ และไม่สามารถมองเห็นก็เพราะความตาบอด ดังนั้น เขาจะยังคงตาบอดและไม่สามารถมองเห็นได้ในโลกหน้า และถ้าบุคคลหนึ่งสามารถทำให้ตัวเองมองเห็นได้ในโลกนี้ ซึ่งเขาสามารถเห็นรัศมีที่เป็นเครื่องหมายของพระเจ้า ดังนั้น เขาจะมองเห็น (รัศมี) ของพระเจ้าในชีวิตหลังความตาย

ท่านศาสดา (ขอความสันติจงมีแด่ท่านและลูกหลาน) กล่าวไว้ว่า

จงระวังความฉลาดหลักแหลมของผู้ศรัทธา เพราะเขามองเห็นผ่านทางรัศมีของพระเจ้า

คำกล่าวของท่านศาสดา (ขอความสันติพึงมีแด่ท่านและลูกหลาน) มิใช่สิ่งเปรียบเทียบการมองเห็นผ่านรัศมีมิใช่การอุปมาอุปมัย สิ่งที่ท่านศาสดากล่าวทั้งหมดล้วนเป็นความจริง ความจริงที่ไม่อาจมีความเปลี่ยนแปลงใดๆ บุคคลหนึ่งพร้อมด้วยความสามารถที่จะมองเห็นรัศมี ไม่ได้มีผลในโลกนี้ก่อนการตาย ดังนั้น เขาก็จะยังคงตาบอดในชีวิตหลังความตาย 

Topics


Parapsychology (Thai)

ควาญะฮ ชัมซุดดีน อะซีมี

และถูกนำเสนอในเชิงวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงในระดับสากล

คนส่วนใหญ่รู้จักควาญะฮ์ชัมซุดดีน อะซีมี เพราะรูปแบบการเขียนที่เป็นเลิศ ท่านเป็นเจ้าของหนังสือมากกว่า 13 เล่ม รวมทั้งแผ่นพับ และเอกสารต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งพูดถึงขอบข่ายความรู้สึกทางด้านอภิปรัชญา นอกจากกลวิธีการเขียนที่ดีเลิศแล้ว สำนวนภาษาที่ใช้ยังง่ายต่อความเข้าใจของคนทั่วไปด้วย ผลงานของท่านในการสร้างความเป็นวิทยาศาสตร์ และความเป็นสถาบันให้กับองค์ความรู้เก่าแก่ ที่ท่านรับมาจากครูของท่าน ไม่อาจกล่าวเป็นอื่นได้นอกจากความโดดเด่นน่าสนใจ

ควาญะฮ์ ชัมซุดดีน อะซีมี ซึ่งได้รับการฝึกฝนจากครูของท่านคือท่าน กอลันดาร บาบา เอาลิยาอ์