Topics
เค เอ็น การาจี
ผมเริ่มปฏิบัติมุรอกอบะฮ์ตามปกติ
ผมประสบความสำเร็จในการการเห็น ช่วงสุดท้ายว่า มีจุดที่เจิดจ้าฉายแสงเหมือนดวงดาว
ณ ตำแหน่งนาภี ทันใด นั้นจุดนี้ก็เคลื่อนและเริ่มหมุนทวนเข็มนาฬิกา
ยกตัวอย่างได้เหมือนกับไม้ที่มีคบเพลิงจุด ซึ่งเด็กๆ หมุนเล่นไปรอบๆ
ที่ต่างกันคือจุดที่เผาไหม้นั้นเปลวไฟร่วง ลง
แต่จากจุดนี้รัศมีได้แผ่กระจายออกไปและหมุนไปรอบโลก จากนั้นจึงปรากฏ
ขึ้นว่าทุกสิ่งถูกสร้างที่ดำรงอยู่บนโลกต่างมีจุด เจิดจ้า เหมือนกัน และรัศมีของ
จุดหนึ่งต่างแลกเปลี่ยนกับจุดที่เหมือนกันในสิ่งถูกสร้างอื่นๆ ด้วยการซึมซาบ
ในมุรอกอบะฮ์มากขึ้น หัวใจของผมสามารถมองเห็นจุดเจิดจ้าในสิ่งถูกสร้างอื่น
ดูดกลืนเข้ามาในจุดนาภี
จากนั้นจุดเจิดจ้านี้ก็เริ่มใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น
ในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นจอทีวี เหมือนจอภาพ ภาพสะท้อนของชีวิตจึงเริ่มปรากฏบนมัน
ในตอนเริ่มต้นนั้นมัว มาก แต่ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น
จนผมสามารถมองเห็นภาพธรรมชาติเหมือนกับชม ภาพยนตร์
“ผมจมหายไปกับการสังเกตที่น่าพึงพอใจ
จนผมลืมเลือนการมีอยู่ของตัวเอง ผมพบจุดที่ต้นไม้มีความเจิดจ้า
ซึ่งเชิญชวนความสนใจของผม และแล้ว
ต้นไม้นั้นก็พูดผมต้นไม้นั้นบอกผมเกี่ยวกับต้นตระกูลและบรรพบุรุษของมัน
ที่เติบโตมานับพันปีที่แล้ว จากนั้นจุดที่เป็นประกายไฟของภูเขาก็เริ่มสนทนากับ
ผมมันแจ้งว่ามันก็เกิดและเติบโตเช่นเดียวกับสิ่งถูกสร้างอื่นๆ ความแตก
ต่างเพียงอย่างเดียวคือ สำหรับพวกมันแล้วกาลเทศะไม่ได้มีค่าเหมือนกับที่มีต่อ
สิ่งถูกสร้างอื่นๆ อัตราการเติบโตของมันช้ามาก หากการเติบโตของต้นไม่ใน เวลา 5 ปี สำหรับมันแล้วต้องนับเป็นพันๆ ปี เมื่อผมถามถึงเหตุผล มันบอกว่า
อัตราการหายใจของพวกมันต่างกัน การหายใจครั้งหนึ่งกินเวลา 15
นาที และด้วยเหตุผลนี้การเติบโตของมันจึงใช้เวลานานมาก”
ไม่ประสงค์ออกนาม ละโฮร์
ได้ฝึกบทฝึกที่ 6
หลังจากเที่ยงคืน ผมเป็นพยานได้ว่า ตัวเองถูกห่อหุ้ม อยู่ในเปลือกหอยทำด้วยแก้ว
ในที่ห่อหุ้มนี้หลอดไฟเจิดจ้า 6 ดวงถูกฝังไว้ หลอด
ไฟดวงหนึ่งซึ่งเจิดจ้าที่สุดถูกติดไว้ที่นาภีของฉัน มีสายบางๆ จำนวนนับไม่ถ้วน
แต่ละเส้นผู้ติดกับสิ่งถูกสร้างสิ่งหนึ่งในจักรวาล ดูเหมือนหลอดไฟนี้คือมือของ
นักเชิดหุ่นกระบอก เมื่อเชือกเหล่านี้เคลื่อนไหว สิ่งถูกสร้างต่างๆ ก็ปรากฏต่อ
สายตาของเรา ผมรู้สึกตกใจกลัวที่ได้เห็นสัตว์เหมือนพังพอน ซึ่งมีขนาดใหญ่
เกือบเท่าภูเขา มีช้างขนาดใหญ่จำนวนมากเร่ร่อนไปทั่วโลก สัตว์ที่น่ากลัวนี้ได้
กลืนช้างไปต่อหน้าต่อตาผมตัวหนึ่ง เหมือนกับปลาที่ถูกจระเข้จับและกลืนลง ไป
เป็นภาพที่น่าขนพองสยองเกล้า จนผมไม่อาจดำเนินมุรอกอบะฮ์ต่อไปได้
เอ็น อัคตาร จากชาร์โกดา
เขียนว่า ผมได้ฝึกบทฝึกที่ 6 ใน 40 วัน หลัง ระหว่าง 10 วันแรกไม่เห็นอะไร
ผมรู้สึกหนักศีรษะมาก มีความตันทาง ศีรษะด้านซ้าย ซึ่งทำให้ปวดศีรษะ
เมื่อความเจ็บปวดทวีขึ้นจนทนไม่ได้ ผมจึง
ทำตามคำแนะนำของท่านโดยดื่มน้ำผลไม้ผสมน้ำตาลวันละ 3 ครั้ง
“วันหนึ่งในสภาวะที่เจ็บปวดนั้นผมบังเอิญเดินไปที่สวน
ซึ่งผมได้นั่งลงใกล้ บ่อน้ำ และจ้องมองไปในอากาศ เมื่อแสงสว่างวาบเข้ามาในจิตใจของผม
เป็น แสงที่เจิดจ้ามากจนตาลาย และมองเห็นลำแสงทั้งหมดเหมือนทับลำแสง
อาทิตย์พุ่งออกจากจุดนาภีของผมด้วยดวงตาที่เบิกอยู่ สิ่งนี้ได้สร้างภาพขึ้นเมื่อ
ผมเล็งไปที่ปลาในหนองน้ำด้วยความตั้งใจให้ปลาทั้งหมดขึ้นมาบนผิวน้ำ ซึ่งปลา
ก็ทำตามนั้นและลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ จากนั้นผมมีความปรารถนาที่จะให้ปลา
ครึ่งหนึ่งยังคงอยู่บนผิวน้ำ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งให้จมลงไป ซึ่งปลาก็ยอมทำตามเช่น
นั้น จากนั้นได้เล็งลำแสงนั้นไปยังดอกกุหลาบ โดยต้องการให้กลายเป็นสีขาว
กลีบดอกไม้นั้นก็ได้กลายเป็นสีขาว แต่ผมต้องโศกเศร้าเมื่อดอกไม้นั้นได้แห้ง
เหี่ยวเฉาไป”
คำเตือน นักศึกษาวิชาโทรจิตทั้งหมด
ควรหลีกเลี่ยงการกระทำที่ เป็นการทำลาย
การบังคับปลาให้ขึ้นมาบนผิวน้ำและการเปลี่ยนสีดอกไม่เป็น ลักษณะของการทำลาย
วิชาโทรจิตสอนเพื่อให้บุคคลรับใช้มนุษยชาติ
และสิ่งถูกสร้างของ พระเจ้า หลังจากตนมีความพร้อมด้วยศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเขาเอง
เรามีความศรัทธาและเชื่อมั่นว่าพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่ได้บันดาลสิ่งต่างๆ
ขึ้นมาในเชิงบวก และเพื่อสร้างลักษณะความคิดที่เข้าใกล้รูปแบบเชิงบวก เรา
จึงแนะนำบทเรียนเหล่านี้ ซึ่งกลมกลืนอย่างยิ่งกับบททดสอบทางจิตวิญญาณ ในคัมภีร์ของพระเจ้า
และแบบฉบับของบรรดาศาสดาทั้งหลาย
ไม่มีผู้ใดที่มีจิตใจเชิงทำลายที่จะใช้ประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้
เพราะ พฤติกรรมเชิงทำลายจะเป็นอันตรายต่อตัวเขาเองเท่านั้น
ควาญะฮ ชัมซุดดีน อะซีมี
โลกวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
มีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับระบบดาราจักร และระบบสุริยะ
วิทยาศาสตร์ได้มาถึงระยะของความก้าวหน้า
ซึ่งมีความต้องการที่จะพยายามเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างแสงของดาราจักรและระบบสุริยะกับดาวโลกของเรา
และแสงจากระบบทั้งสองนี้มีอิทธิพลต่อมนุษย์ สรรพสัตว์
พันธุ์พืชและสิ่งไม่มีชีวิตต่างๆ อย่างไร เงื่อนไขและสถานการณ์ของสัตว์
พันธุ์พืชและวัตถุอื่นๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร นักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ยังมีความเชื่อ
ด้วยว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏอยู่บนโลกนี้ล้วนเป็นคลื่น ไม่มีอะไรนอกจากคลื่น
คลื่นซึ่งไม่สามารถเรียกเป็นอย่างอื่นได้นอกจากแสง
ในเรื่องโทรจิต
ความรู้ดังกล่าวเป็นการขุดค้นถึงสิ่งที่ควบคุมอยู่เบื้องหลัง ความรู้สึก
ซึ่งยังครอบคลุมจิตสำนึกของเรา ความรู้นี้บอกเราว่า