Topics
ญาวิด ซะลีม จากละโอร์
เขียนมาว่า
“ท่านได้แห้เห็นถึงความคิด
2 แง่มุม คือ ต่ำและสูง
ความคิดที่สูง
ท่านให้ความหมายว่า เป็นความคิดของความเที่ยงตรง ตามทรรศนะของศาสนา การ
ใช้ชีวิตอยู่ในความเคร่งครัดตามคำสอนของอิสลาม
คือความเที่ยงตรง และ ณ จุดนั้นเราไม่พบว่ามีการกล่าวถึงโทรจิตใน อิสลาม
ความจริงโทรจิตเป็นวิชาการแขนงหนึ่งที่นักวิทยาคาสตร์ตะวันตกได้
พิจารณาจากศาสตร์ทางอภิปรัชญาอื่น มีความยุ่งยากที่เดียวที่ท่านรวมเอา
โทรจิตเข้ามาในอิสลาม ผมเห็นด้วยที่โทรจิตได้กลายเป็นความรู้สาขาที่สำคัญ ที่เดียว
แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่ประสงค์จะศึกษาเรื่องโทรจิต ต้องมีความคิด
ที่จะเข้าสู่ความเที่ยงตรง นั่นคือเขาควรต้องเป็นมุสลิม
ท่านสามารถชี้ออกมา
แม้เพียงตัวอย่างเดียวได้หรือไม่ ที่บรรพบุรุษของ เราเคยมีประสบการณ์
และมีการประสานกับโทรจิต ผมใคร่ขอความกรุณา ท่านว่า
กรุณานำเสนอความรู้นี้ในรูปแบบและสัณฐานดั้งเดิมของมัน เพื่อว่า
ความแตกต่างระหว่างโทรจิตกับอิสลาม จะยังคงในที่ของทั้งสอง
คำตอบ เท่าที่ความคิดที่เข้าใกล้ความเที่ยงตรงได้รับการพิจารณา
ไม่ อาจกล่าวอ้างได้ว่าสิ่งนั้นเป็นสมบัติหรือมรดกของชนชาติใดชนชาติหนึ่งเท่านั้น
ความจริงความรู้เป็นอีกนามหนึ่งของคุณค่าแห่งมนุษยชาติ ถ้าผู้ไม่ใช่มุสลิมมี
คุณค่านี้ เขาก็ถูกเรียกได้ว่าเป็นมนุษย์ และถ้ามุสลิมไม่มีคุณค่านี้ ดังนั้น เขา
ก็ไม่มีเกียรติพอ แม้แต่จะถูกเรียกว่าเป็นมนุษย์”
พระผู้เป็นเจ้า
ผู้ทรงสูงส่ง ได้ประกาศในบทที่ 5 โองการที่ 69 ว่า
“แท้จริงบรรดาผู้ที่ศรัทธา
และบรรดาผู้ที่เป็นยิวและพวกชาเบียน (บูชาดวงดาว) และบรรดาผู้ที่เป็นคริสต์นั้น
ผู้ใดที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และ วันปรโลกและประกอบสิ่งที่ดีงามแล้ว
ก็ไม่มีความกลัวใดๆ แก่พวกเขา และ ทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ”
ได้มีการทำให้ชัดเจนในโองการนี้ว่า
การปฏิบัติสิ่งที่ดีงามและการกระทำ
ที่วางอยู่บนพื้นฐานความเที่ยงตรงของปัจเจกบุคคลหรือชนชาติใดๆไม่สูญเปล่า และมีรางวัลถูกเตรียมไว้ให้ความเที่ยงตรงที่กระทำอย่างบริสุทธิใจเพื่อเห็น
แก่พระเจ้า ความประพฤติเหล่านั้นที่กระทำเพื่อเห็นแก่พระเจ้าจะวางอยู่บน
ความมีจิตใจที่ซื่อตรง
ตามทรรศนะของนักจิตวิญญาณนิยมแล้ว
ความมีจิตใจที่เที่ยงตรง สามารถทำให้เราเข้ามาใกล้ชิดกับวิญญาณของตัวเองมากขึ้น
ความจริงความ ใกล้ชิดและการรับของวิญญาณของเราเป็นเพียงสิ่งที่วัดมาตรฐานของ
มนุษยชาติ คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์และคัมภีร์ของพระผู้เป็นเจ้าทั้งหมด
เชิญชวนมนุษย์ให้มีความคิดเกี่ยวกับการเข้าใกล้นี้ และได้สั่งสอนกำหนดการ
ซึ่งสามารถก่อ ให้เกิดความมีจิตใจเที่ยงตรงได้หลังจากมีความรู้ความเข้าใจอย่างเพียงพอเกี่ยว
กับวิญญาณแล้ว การมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิญญาณ เป็นสื่อกลางเพียง
ประการเดียว สำหรับการมีความรู้ความเข้าใจพระผู้อภิบาลของเรา ซึ่งยังคง
อยู่ในโลกแห่งปรากฏการณ์แห่งนี้ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิญญาณ ใน
ด้านหนึ่งสามารถทำให้เราใช้ประโยชน์จากพรสวรรค์ของวิญญาณที่ซ่อนเร้นอยู่
ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง สามารถทำให้เรามีความรู้ความเข้าใจอย่างเพียงพอต่อ
พระเจ้าแห่งโลกนี้ ในทัศนียภาพแห่งการสร้างสรรค์ของพระองค์ที่ดีขึ้นด้วย
เหตุนี้แนวทางความคิด ซึ่งมีเป้าหมายที่ความรูความ เข้าใจตัวตนด้านในหรือ
วิญญาณนี้ จึงเป็นความมีจิตใจที่เที่ยงตรง ศาสดาทั้งมวลพยายามอย่างหนัก
ตลอดชีวิตของพวกท่านแผ่กระจายความมีจิตใจที่เที่ยงตรงดังกล่าว
ซึ่งพระเจ้า ผู้ทรงสูงส่งทรงประทานให้พวกท่าน และยังคงมีภารกิจที่จะต้องส่งแนวความ
ความคิดซึ่งถูกมอบให้พวกท่านต่อไปยังเพื่อนมนุษย์ เพื่อว่าพวกเขาจะปลอดภัย
จากการก่อกบฏ และความชั่วร้าย
ขณะนี้จึงมาถึงจุดนี้ที่ว่า
ไม่พบเรื่องโทรจิตในอิสลาม ความจริงโทรจิต
เป็นชื่อของความรู้ซึ่งผู้หนึ่งส่งความคิด มโนคติและแบบแผนความคิดของตน เอง
ไปยังสิ่งถูกสร้างอื่นของพระเจ้า อันเป็นภารกิจของบรรดาศาสดาทั้งมวล ของพระองค์
ซึ่งแบบแผนทางความคิดนี้ถูกมอบให้พวกท่าน ภายใต้การเตรียม การพิเศษ
ซึ่งสามารถนำเสนอต่อมนุษยชาติเพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา
และเพื่อปกป้องพวกเขาให้พ้นจากความชั่วร้าย และความคิดที่เป็นการละเมิด
ไม่มีความแตกต่างใดๆ ถ้าแทนที่การดลใจหรือการแนะนำความรู้นี้จะถูกเรียก ว่าโทรจิต
เหมือนกับที่อัลลอฮ์ ถูกเรียกว่า ก็อด (God)
ในภาษาอังกฤษและ บักวานในภาษายินดี (หรือพระเจ้าในภาษาไทย-ผู้แปล)
คุณยังได้ขอให้ยกแม้เพียงตัวอย่างเดียวจากประวัติศาสตร์อิสลามว่า
มีความร่วมมือกันกับโทรจิต
ครั้งหนึ่ง
มีอูฐต้องเดินผ่านท่านศาสดา (ขอความสันติพึ่งมีแด่ท่านและ ถูกหลาน) ไป
เมื่อเห็นน้ำตาในดวงตาของอูฐ ท่านบอกกับเจ้าของอูฐว่า อูฐได้
ร้องเรียนเกี่ยวกับเขาว่า ให้มันบรรทุกหนักจนเต็มพิกัด
แล้วยังทารุณและไม่ให้อาหารมันอย่างดี
ในเรื่องนี้
มีเหตุการณของบรรดาศาสดา มิตรของพระเจ้า ผู้เคร่งครัด ศาสนา
นักปราชญ์ราชบัณฑิตและผู้ปราดเปรื่องมากมาย ที่จะยกมาแทน ตัวอย่างได้
ควาญะฮ ชัมซุดดีน อะซีมี
โลกวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
มีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับระบบดาราจักร และระบบสุริยะ
วิทยาศาสตร์ได้มาถึงระยะของความก้าวหน้า
ซึ่งมีความต้องการที่จะพยายามเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างแสงของดาราจักรและระบบสุริยะกับดาวโลกของเรา
และแสงจากระบบทั้งสองนี้มีอิทธิพลต่อมนุษย์ สรรพสัตว์
พันธุ์พืชและสิ่งไม่มีชีวิตต่างๆ อย่างไร เงื่อนไขและสถานการณ์ของสัตว์
พันธุ์พืชและวัตถุอื่นๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร นักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ยังมีความเชื่อ
ด้วยว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏอยู่บนโลกนี้ล้วนเป็นคลื่น ไม่มีอะไรนอกจากคลื่น
คลื่นซึ่งไม่สามารถเรียกเป็นอย่างอื่นได้นอกจากแสง
ในเรื่องโทรจิต
ความรู้ดังกล่าวเป็นการขุดค้นถึงสิ่งที่ควบคุมอยู่เบื้องหลัง ความรู้สึก
ซึ่งยังครอบคลุมจิตสำนึกของเรา ความรู้นี้บอกเราว่า