Topics
คำถาม เป็นความจริงหรือไม่ที่ว่า นักศึกษาทางด้านอภิปรัชญาและ
ศาสตร์ที่ลี้ลับ คือผู้ที่ยังเยาว์และยังไม่บรรลุวุฒิภาวะ
ขณะที่ผู้ซึ่งบรรลุวุฒิภาวะ แล้วอันได้แก่นักวิชาการ ปัญญาชนและผู้ที่เข้าหาตรรกะ
ก็คือผู้ที่สุดโต่งไม่อาจศึกษาศาสตร์นี้ได้
ตอบ จิตใจของมนุษย์
เป็นสิ่งถูกสร้างที่สมบูรณ์ที่สุดสิ่งหนึ่งของพระผู้ เป็นเจ้า ผู้ทรงสูงส่ง
ซึ่งเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งต้นไม้หลากหลายพันธุ์เจริญ เติบโตได้
ต้นไม้ที่เติบโตในดินของจิตใจคือศาสตร์ต่างๆ ที่อยู่นอกเหนือการควบ
คุมซึ่งมีมหาศาล จนการนับจำนวนอันมากมายของพวกเขาแทบจะเป็นไปไม่ได้
ในบรรดาศาสตร์ของอภิปรัชญาและศาสตร์ที่ลี้ลับมี,จุดยืน,ของตนเอง ศาสตร์
ทางอภิปรัชญายังรู้จักกันในฐานะศาสตร์ทางจิตวิญญาณหรือจิตวิญญาณนิยม
กิ่งก้านที่เขียวชอุ่มของต้นไม้
สามารถใช้ในเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ที่มีประโยชน์
ขณะที่กิ่งที่แห้งและถูกหนอนกินสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงได้
ชายหนุ่มและหญิงสาวเปรียบเสมือนกิ่งก้านต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม
ขณะที่คน แก่และคนมากเหตุผลเหมือนไม้แห้ง ซึ่งไม่มีการร่ำเรียนวิชาการใดที่เขาสนใจ
ในขอบข่ายแห่งการสังเกตและประสบการณ์ของบรรดานักจิตวิทยา
และผู้นำทางต้านศาสตร์ทาง
อภิปรัชญาทั้งหลาย
ซึ่งประกาศเหตุผลขั้นพื้นฐานของสำหรับสิ่งนี้ ได้กล่าวว่า
ความต้องการขั้นพื้นฐานสำหรับการศึกษาศาสตร์ ทางด้านจิตวิญญาณ ธรรมชาติที่นุ่มนวล
หัวใจที่อ่อนโยนและจิตใจที่ไม่กังวล ด้วยวัยที่มากขึ้น
หลังจากที่ถูกกักขังอยู่ในเปลือกของอุดมการณ์เฉพาะของตน เอง
คนผู้หนึ่งก็จะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้มีใจคับแคบ หัวใจที่หยาบกระด้างและ
ประกาศว่าตนเองได้รับอุดมการณ์ของชีวิตแล้ว ขณะที่จิตวิญญาณนิยมไม่ยอม
รับการเข้าใกล้ลักษณะนี้ด้วย
มันเป็นความจริงที่ตรงไปตรงมาว่า
ผู้หนึ่งสามารถเรียนรู้จากครูของตน เองได้ ยกเว้นเขาไม่พร้อมที่จะยอมรับสิ่งที่ครูบอก
ในฐานะคำสั่งเสียที่เด็ดขาด ถ้าเด็กไม่ยอมรับ “ก.ไก่” ว่าเป็น “กอไก่”
เขาจะไม่สามารถเรียนรู้เรื่องตัว อักษรได้
นักศึกษาที่เยาว์วัยและหญิงสาวผู้บริสุทธิ์สามารถสำเร็จการศึกษา
ศาสตร์เหล่านี้ได้ เพราะพวกเขาไม่มีความสงสัยหรือข้อแม้ และยึดมั่นความ
คิดที่ไม่ยืดหยุ่นใดๆ พวกเขายอมรับสิ่งที่ได้รับการบอกเล่าให้ยอมรับโดยง่าย
ผู้อาวุโสแทนที่จะยอมมอบตัวเองแก่ครูทางจิตวิญญาณ ในขอบข่ายแห่ง
อุดมการณ์พิเศษและความคิดที่มั่นคง กลับพยายามเข้าไปตัดสินคำแนะนำของ ครู
และพยายามวิเคราะห์ความรู้ ซึ่งตัวเองก็ยังไม่รู้แม้แต่ระดับ ก ข ค
ในขอบข่ายของตรรกะและปรัชญาเลย
สิ่งนี้ผู้ที่ปรารถนาในการศึกษาศาสตร์ทางอภิปรัชญาทั้งหมด
ต้องจดจำ ไว้ในใจก็คือ อุดมการณ์ที่มีขอบเขตจำกัด ผู้เข้าใกล้ความสุดโต่ง
และที่ลือว่า ตนเป็นผู้นำในขอบข่าย พร้อมด้วยความรู้สึก วางภูมิในความสามารถของ
พวกเขา เป็นเพียงดรรชนีบ่งชี้การเข้าใกล้ความผิดพลาดของพวกเขาซึ่งมิแต่
จะเป็นอุปสรรคในการมีหัวใจที่ไม่วอกแวกและอิสระเท่านั้น เมื่อบางคนถูกกีด
กันจากความโปรดปรานของการมีจิตใจที่เข้าใกล้ความอิสระ และไม่มีอุปทาน
ความสงสัยและการตามอำเภอใจ ก็จะกลืนความสามารถตามธรรมชาติที่ให้ แก่เขาเข้าไป
หลังจากดึงดูดความสนใจในการเกาะกุมของพวกเขาแล้ว
นี่คือสถานการณ์อันน่าเศร้า
เหตุการณ์เดียวกันเกี่ยวกับที่พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสูงส่ง
ได้กล่าวไว้ในคัมภีร์อัล กุรอานว่า
“อัลลอฮ์ได้ทรงประทับตราบนหัวใจของพวกเขา
และบนหูของพวก เขาแล้ว และบนตาของพวกเขาก็มีสิ่งบดบังอยู่และเขาเหล่านั้น
จะได้รับการ ลงโทษอันมหันต์” (บทที่ 2 โองการที่ 7)
ควาญะฮ ชัมซุดดีน อะซีมี
โลกวิทยาศาสตร์สมัยใหม่
มีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับระบบดาราจักร และระบบสุริยะ
วิทยาศาสตร์ได้มาถึงระยะของความก้าวหน้า
ซึ่งมีความต้องการที่จะพยายามเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างแสงของดาราจักรและระบบสุริยะกับดาวโลกของเรา
และแสงจากระบบทั้งสองนี้มีอิทธิพลต่อมนุษย์ สรรพสัตว์
พันธุ์พืชและสิ่งไม่มีชีวิตต่างๆ อย่างไร เงื่อนไขและสถานการณ์ของสัตว์
พันธุ์พืชและวัตถุอื่นๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร นักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ยังมีความเชื่อ
ด้วยว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏอยู่บนโลกนี้ล้วนเป็นคลื่น ไม่มีอะไรนอกจากคลื่น
คลื่นซึ่งไม่สามารถเรียกเป็นอย่างอื่นได้นอกจากแสง
ในเรื่องโทรจิต
ความรู้ดังกล่าวเป็นการขุดค้นถึงสิ่งที่ควบคุมอยู่เบื้องหลัง ความรู้สึก
ซึ่งยังครอบคลุมจิตสำนึกของเรา ความรู้นี้บอกเราว่า