Topics

โทรจิต บทฝึกที่ 4

อุดรูจมูกด้านขวาด้วยนิ้วหัวแม่มือข้างขวา หลังจากนั่งในท่าที่ผ่อนคลาย สูดลมหายใจเข้าทางรูจมูกด้านซ้าย 10 วินาที กลั้นหายใจไว้ 20 วินาที หลัง จากอุดรูจมูกด้านซ้ายด้วยนิ้วก้อยมือขวา

หลังจากผ่านไป 20 วินาที เอานิ้วหัวแม่มือออกจากรูจมูกด้านขวา ปล่อยลมหายใจออก 10 วินาที ตอนนี้สูดลมหายใจเข้าผ่านเจมูกด้านเดียวกัน 10 วินาที และกลั้นลมหายใจไว้ 20 วินาที ด้วยการอุดด้วยนิ้วหัวแม่มือ ปล่อยลมหายใจออกด้วยรูจมูกด้านซ้าย 10 วินาที หลังจากเอานิ้วก้อยออก นี่คือครบหนึ่งรอบ

ทำอย่างนั้นจนครบ 10 รอบ การฝึกนี้ทำครั้งหนึ่งในตอน เข้า และอีกครั้งหนึ่งในตอนกลางคืนก่อนเข้านอน การฝึกนี้จะได้รับผลดีที่สุด ถ้ากระทำเมื่อท้องว่าง ในสถานที่อากาศเปิดโล่ง

นักศึกษาทั้งหมดซึ่งกระทำการฝึกนี้ ได้รับการแนะนำให้รับประทาน อาหารให้เร็วขึ้นในตอนเย็น จะต้องมีระยะเวลาห่างอย่างน้อยราว 3 ชั่วโมง ระหว่างการรับประทานอาหารกับการฝึก นั่นคือการฝึกควรกระทำหลังการรับ ประทานอาหารแล้ว 3 ชั่วโมง

หลังจากการฝึกลมหายใจนี้ ให้นั่งในท่าที่กล้ามเนื้อผ่อนคลาย จินตนา การด้วยตาที่หลับลง ว่ามีลูกบอลบรรจุด้วยแสงสีน้ำเงิน และแสงจากลูกบอลนี้ตกลงบนมือของคุณ หลังจากแสงนี้ได้ซึมซาบเข้าไปในสมองของคุณและไหล เวียนผ่านร่างกายทั้งหมดแล้ว ก็ไหลผ่านเท้าของคุณลงดิน การซึมซาบในการ ฝึกนี้และจินตนาการที่ลึกซึ้ง จะทำให้คุณเกิดความรู้สึกของความบางเบามาก จนกระทั้งการกระทำของแรงดึงดูดหมดไป หลังจากจินตนาการนี้มีความ สมบูรณ์แล้ว ให้ปฏิบัติการฝึกด้วยการลืมตา ท่านถูกกำหนดให้เห็นว่า ท่านและ โลกนี้ถูกห่อหุ้มอยู่ในลูกบอลที่บรรจุด้วยแสงสีน้ำเงิน เมือการฝึกนี้เสร็จสิ้น สมบูรณ์ ผู้ฝึกจะเริ่มรู้สึกเบาสบาย จนกระทั้งเมื่อเขาเดินก็จะรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนอากาศ

ระหว่างกำหนดการฝึกฝนนี้ ข้อควรระวังของการฝึกคือ เมื่อเดินอยู่ริม ถนนอย่าพยายามฝึก เพราะความรู้สึกที่ถูกปลดปล่อยออกจากแรงดึงดูด จะทำให้ให้สูญเสียความเชื่อมโยงกับพื้นดิน ถ้าภาวะนี้มีพลัง เหนือท่านโดย อัตโนมัติ ขณะที่ท่านเดินอยู่ริมถนน ให้เข้าไปด้านข้างและเดินบนทางเท้าเท่า นั้น ด้วยการรักษาเท้าให้แตะพื้นดินด้วยความมั่นคง เพื่อว่าท่านจะได้ไม่ชนเข้ากับคนอื่น อย่างไรก็ตาม การปฏิบัตินี้สามารถกระทำได้ที่บ้าน ไม่มีเสียหาย แต่อย่างใดที่จะกระทำภายในผนัง 4 ด้านของบ้าน 

Topics


Learn Therapathy (Thai)

ควาญะฮ ชัมซุดดีน อะซีมี

โลกวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ มีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับระบบดาราจักร และระบบสุริยะ วิทยาศาสตร์ได้มาถึงระยะของความก้าวหน้า ซึ่งมีความต้องการที่จะพยายามเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างแสงของดาราจักรและระบบสุริยะกับดาวโลกของเรา และแสงจากระบบทั้งสองนี้มีอิทธิพลต่อมนุษย์ สรรพสัตว์ พันธุ์พืชและสิ่งไม่มีชีวิตต่างๆ อย่างไร เงื่อนไขและสถานการณ์ของสัตว์ พันธุ์พืชและวัตถุอื่นๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร นักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ยังมีความเชื่อ ด้วยว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏอยู่บนโลกนี้ล้วนเป็นคลื่น ไม่มีอะไรนอกจากคลื่น คลื่นซึ่งไม่สามารถเรียกเป็นอย่างอื่นได้นอกจากแสง

ในเรื่องโทรจิต ความรู้ดังกล่าวเป็นการขุดค้นถึงสิ่งที่ควบคุมอยู่เบื้องหลัง ความรู้สึก ซึ่งยังครอบคลุมจิตสำนึกของเรา ความรู้นี้บอกเราว่า