Topics

ประสบการณ์และเหตุการณ์ บทฝึกที่ 1 แสงปรอท

มูนีชา ฟาติมะอ์ จากละโอร์เขียนมาว่า

ฉันต้องการศึกษาเรื่องโทรจิต เมื่อบทเรียนที่หนึ่งของโทรจิตได้รับการ ตีพิมพ์ในนิตยสารรายสัปดาห์ ฉันรู้สึกเต็มตื้นในหัวใจ และตัดสินใจที่จะปฏิบัติ การฝึกฝนที่คุณแนะนำ ฉันได้ส่งรายละเอียดเกี่ยวกับประสบการณ์ของฉัน และเหตุการณ์ที่ประสพระหว่างการปฏิบัติการฝึกฝน

วันที่ 9 มิถุนายน

ฉันพยายามจมดิ่งลงไปในมหาสมุทรของแสง เมื่อรู้สึกเหมือนนอนหลับ และเห็นในความฝันของฉันว่ามีแสงของพระเจ้า ซึ่งเหมือนกับแสงปรอท แต่ มันจรัสจ้ามากจนกระทั่งเมื่อฉันพยายามที่จะมองดู มันทำให้ฉันลานตา จากนั้น ฉันจึงเห็นสถานที่ซึ่งบรรดาผู้สละชีพเพื่อศาสนาอยู่

หลังจากการเคารพภักดีพระเจ้าในตอนรุ่งอรุณ ฉันได้เข้านอนอีกครั้ง หนึ่งและมองเห็นพายุจริงๆ ฉันจึงพยายามปิดหน้าต่างและประตู แต่ไม่สำเร็จ ในขณะเดียวกัน คนส่งนมชื่อ อีลม์ตีนได้มาและส่งนม บริสุทธิ์ให้ พร้อมกับบอกให้ฉันดื่ม ฉันหันกลับมาโดยปล่อยประตูเปิดทิ้งไว้ ฉันมองไปยังท้องฟ้า และ มองดูดวงดาวที่แสนสดใสเหนือศีรษะ มีตาข่ายขนาดเล็กมากรอบๆ มัน ในครั้งแรกฉันรู้สึกหวาดกลัว แต่

แล้วความรู้สึกนี้ก็บรรเทาลง และฉันเริ่มสรรเสริญ พระเจ้า ผู้ทรงเดชานุภาพ

วันที่ 10 มิถุนายน

ฉันเข้านอน เมื่อฉันจินตนาการเกี่ยวกับการจมลงสู่แม่น้ำแห่งแสง มองเห็นในความมืดว่า ลำแสงเจิดจ้าที่บอบบางมากได้เชื่อมโลกกับท้องฟ้า ความจริงนี่คือเส้นทางสู่ฟากฟ้า เมื่อฉันติดตามลำแสงนี้ โดยมองไปยังฟากฟ้า ฉันได้ยินสุรเสียงของพระเจ้าว่า ถ้าเจ้าต้องการที่จะเดินตามทางเดินที่จรัสจ้า ซึ่งดำรงอยู่ระหว่างฟากฟ้าและแผ่นดินนี้ จงบอกผู้คนให้เป็นคนดี และเห็นอก เห็นใจซึ่งกันและกัน

วันที่ 11 มิถุนายน

ในระหว่างหลักสูตรการเข้าฌาน ฉันรู้สึกประหนึ่งว่า ฉากที่มีดทึบได้ ถูกขจัดออกไป และการเปิดรับก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าฉัน เมื่อฉันมองดูอย่างตั้ง ใจ ก็สังเกตเห็นทำนบ และสิ่งแปลกๆ เช่น โต๊ะที่สูงมาก ชามใบใหญ่ที่สวย งาม ฯลฯ

วันที่ 13 มิถุนายน

ระหว่างการฝึกเข้าฌาน ปรากฏประหนึ่งว่าเป็นมหาสมุทรแสงที่กว้าง ใหญ่ไพศาล ซึ่งไม่มีขอบเขต มีจักรวาลจมอยู่ภายใน ฉันพบตัวเองว่างเปล่าและเห็นว่าร่างกายของฉันเป็นเสมือนใบไม้บางๆ เหมือนกับเปลือกหอย ได้บังเกิด ขึ้นในใจว่า ฉันมีอิสระที่จะเคลื่อนที่ไปรอบๆ ในกาลเทศะที่ฉันต้องการ ดังนั้น ฉันจึงคิดที่จะไปเยี่ยมครู ฉันจึงลอยผ่านไปยังอวกาศที่แผ่กว้างใหญ่ไพศาล ด้วย ปรากฏขึ้นแก่ความคิดว่า ฉันพบตัวเองกำลังบินอยู่ในอากาศมุ่งสู่การาจี

วันที่ 15 มิถุนายน

เมื่อฉันเตรียมตัวที่จะจมดิ่งสู่มหาสมุทรของแสง ฉันสังเกตหนังสือ เล่มใหญ่ เมื่อเปิดออกจึงพบคำอธิบายภาพเป็นภาษาเปอร์เชีย รูปภาพวาดให้ เห็นมหาสมุทรของแสง มีมหาสมุทรที่มีรัศมีสีน้ำเงิน แผ่กระจายไปยังขอบฟ้า ความมากมายมหาศาลของลำแสงสีน้ำเงิน ทำให้เกิดความหวาดกลัว เนื่องจาก มหาสมุทรอยู่ในลักษณะมีคลื่นขนาดยักษ์ และกระแสน้ำเหมือนกับเมฆทะมึน เมื่อฉันเปิดหน้าต่อไป รูปวาดอื่นๆ ก็ปรากฏต่อหน้าฉัน รูปวาดนี้เป็นภาพ มหาสมุทรแสงสีน้ำเงินอ่อนมาก มีทางเดินสีน้ำเงินขาวอยู่ตรงศูนย์กลาง ของมหาสมุทร มีต้นไม้ใหญ่มากอยู่ทางด้านขวามือของทางเดิน ลงตรงปลายทางเดินชายชราที่ใบหน้าเต็มไปด้วยการแสดงออกซึ่งความอ่อนโยนและความ กรุณายืนอยู่ เครื่องแต่งกายของเขาเจิดจรัสราวกับทำมาจากแสงปรอท มีแสง ปรอทจ้ามาก จนกระทั่งฉันพบว่ามันเป็นการยากที่จะมองเห็นผู้ชราที่เปี่ยมเมตตา ผู้นั้น ดูประหนึ่งว่าเขายืนอยู่ที่นั่นเพื่อต้อนรับผู้คน แสงประหลาดที่พุ่งออกมา จากกำแพงด้านหลังชายชราตกลงบนตัวเขา ชายชราไม่ได้มองไปยังกำแพง ฉันเข้าใจว่ามหาสมุทรจะกลืนกินทางเดินนี้ ทำให้ไม่มีทางไปสู่ชายชราผู้นั้น แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามนั้น เพราะมหาสมุทรเพียงแต่สัมผัสทางเดินและถอย ห่างออกไป

นับตั้งแต่ฉันเริ่มการผกผันเหล่านี้ ฉันรู้สักเหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลา มีความร่าเริงอย่างมากมายในตัวฉัน พระเจ้าทรงเริ่มการมีความเมตตาและ ความปรานี มโนคติเกี่ยวกับการลงโทษและความกริ้วโกรธของพระเจ้าค่อยๆ ถูกขจัดออกไป ด้วยความรักและความพึงพอใจที่สงวนไว้ในจิตใจ ฉันต้องการ ที่จะยังคงอยู่ในความเงียบและเพลิดเพลินไปในความคิดเกี่ยวกับพระผู้อภิบาล มีเสียงมาจากด้านในว่า...

โอ้ ตัวเจ้าเอ่ย ฉันใกล้ชิดกับเจ้า แต่เจ้าอยู่ห่างจากฉัน

เทวทูต

คุณมุมตัช อะลี จากซังการ เขียนมาว่า

ผมขอเสนอประสบการณ์ของตัวเอง อันเนื่องมาจากการฝึกฝนครั้งแรก

วันที่ 14 มิถุนายน

หลังจากการฝึกฝนการหายใจ ผมนั่งลงเพื่อเข้าฌาน ระหว่างนั่งฌาน ร่างกายของผมถูกหั่นจนเปิดออกเหมือนกับชิ้นแตงโม และผู้คนสองสามคน ซึ่งน่าจะเป็นเทวทูตได้ขว้างวัตถุสีดำ ซึ่งมองดูคล้ายกับงูทิ้งไป หลังจากนำมัน ออกมาจากร่างกายของผม

วันที่ 15 มิถุนายน

เมื่อผมพยายามที่จะจมลงในมหาสมุทรของแสง ผมต้องเผชิญกับการ ต้านทานอย่างมากจากภายใน ประหนึ่งมีสิ่งถูกสร้างที่ประหลาด ได้เข้าไปตัว ผมและเย้าแหย่ผม

วันที่ 16 มิถุนายน

ในขณะครึ่งหลับครึ่งตื่น ผมมองเห็นบ้านสีเขียว ผู้หญิงสาวสวยได้เดิน เข้าไปในบ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่ผมจะเห็นอะไรต่อ ภาพก็หายไป หยุดความรู้สึกของความสำเร็จไว้ เป็นภาวะปกติที่ว่า แม้ระหว่างเวลากลางวัน เมื่อผม ปิดตา ผมก็จะพบว่าตัวเองจมลงไปในมหาสมุทรของแสง ผมประสพกับความ แข็งแรง ความมีชีวิตชีวา และพลังเจตนารมณ์ที่เพิ่มมากขึ้น

วันที่ 18 มิถุนายน

ในความฝัน ผมพบว่าตัวเองอยู่ในโลกสีเขียว ซึ่งทุกๆสิ่งรวมทั้งบ้านผู้ชายและผู้หญิง ฯลฯ ล้วนอยู่ในชุดสีเขียว” 

Topics


Learn Therapathy (Thai)

ควาญะฮ ชัมซุดดีน อะซีมี

โลกวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ มีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับระบบดาราจักร และระบบสุริยะ วิทยาศาสตร์ได้มาถึงระยะของความก้าวหน้า ซึ่งมีความต้องการที่จะพยายามเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างแสงของดาราจักรและระบบสุริยะกับดาวโลกของเรา และแสงจากระบบทั้งสองนี้มีอิทธิพลต่อมนุษย์ สรรพสัตว์ พันธุ์พืชและสิ่งไม่มีชีวิตต่างๆ อย่างไร เงื่อนไขและสถานการณ์ของสัตว์ พันธุ์พืชและวัตถุอื่นๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร นักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ยังมีความเชื่อ ด้วยว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏอยู่บนโลกนี้ล้วนเป็นคลื่น ไม่มีอะไรนอกจากคลื่น คลื่นซึ่งไม่สามารถเรียกเป็นอย่างอื่นได้นอกจากแสง

ในเรื่องโทรจิต ความรู้ดังกล่าวเป็นการขุดค้นถึงสิ่งที่ควบคุมอยู่เบื้องหลัง ความรู้สึก ซึ่งยังครอบคลุมจิตสำนึกของเรา ความรู้นี้บอกเราว่า