Topics
เมื่อเราพิจารณาใคร่ครวญเกี่ยวกับการสร้างสรรค์จักรวาลในขอบข่ายคำสอนของคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์
เราจะได้รับความรู้ว่า เราคือสิ่งถูกสร้างและพระเจ้าคือผู้สร้างสรรค์
เมื่อผู้สร้างสรรค์มีเจตนารมณ์ พระองค์ได้ทำให้จักรวาลเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
โดยออกคำสั่งว่า “จงเป็น”
คำถามก็คือ เหตุใดผู้สร้างจึงมีเจตนารมณ์ และสิ่งที่
พระองค์มีเจตนารมณ์ปรากฏขึ้นแล้วหรือไม่ ถ้าเจตนารมณ์ของผู้สร้างปรากฏอยู่ แล้ว
เจตนารมณ์นั้นปรากฏอยู่ที่ไหน และทำไมพระองค์จึงสร้างจักรวาล พระผู้สร้างเอง
ทรงบอกเราเกี่ยวกับสิ่งนี้ว่า
“ฉันคือ
ขุมทรัพย์ที่ซ่อนเร้นอยู่ ฉันสร้างสิ่งถูกสร้างด้วยความรัก เพื่อว่าฉัน
จะถูกรู้จัก”
พระผู้สร้างยังบอกกับเราเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของสิ่งถูกสร้างและสภาพการ
ดำรงอยู่ด้วยว่า
“ฉันสร้างสิ่งถูกสร้าง
บนคุณลักษณะของฉันเอง”
นี่คือ
ความจริงที่รู้กันดีว่า “ชีวิต”
ไม่สามารถแยกออกจากคุณลักษณะได้
คุณลักษณะยังคงปรากฏอยู่ในสิ่งมีชีวิตและสิ่งมีชีวิตจะได้รับการจดจำและรู้จักโดยคุณลักษณะของมัน
นั่นคือ คุณสมบัติและบุคลิกลักษณะ
ควาญะฮ ชัมซุดดีน อะซีมี
เมื่อพระประสงค์ของพระเจ้าที่จะให้โครงการจักรวาลเปลี่ยนไปเป็นวัตถุธาตุเกิดขึ้นในจิตของพระองค์
พระองค์เพียงตรัสว่า “จงเป็น”
โครงการจักรวาลนั้นที่ปรากฏขึ้น ในลำดับและการจัดการต่อไปนี้
หนังสือเล่มหนึ่ง
เปิดขึ้นและแสดงอย่างชัดเจน
หนังสือประกอบด้วยบันทึกที่ถูกเก็บไว้จำนวน
300 ล้าน บันทึก
แต่ละบันทึกที่ถูกเก็บไว้ประกอบด้วยแกแล็กซี่
จำนวน 80,000 แกแล็กซี่
แต่ละแกแล็กซี่มีระบบที่เสถียรกว่า
100,000 ล้านระบบ และระบบที่ไม่เสถียรกว่า 1.2 ล้านล้านระบบ
แต่ละระบบมีดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์บริวารประมาณ
9-13 ดวงต่อระบบ
เป็นเรื่องเข้าใจผิดและถือเป็นการคาดเดา
ที่กล่าวว่า โลกของเราเท่านั้นที่เป็นโลกแห่งการตั้งถิ่นฐานมนุษย์
มีอาณานิคมและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์และญินในทุกๆ