Topics
เรื่องราวของศาสดาโซโลมอน
(สุลัยมาน) และราชินีซีบา (บิลกิส) ดังที่กล่าว ไว้ในคัมภีร์อัล
กุรอานก็พูดถึงความฉลาดของนก ในท้องพระโรงของกษัตริย์โซโลมอน นอกจากมนุษย์แล้ว
ยังมีณินและสัตว์ปรากฏตัวอยู่ ตามฐานันดรและยศศักดิ์ด้วย เพื่อรับหน้าที่ซึ่งจะมอบหมายให้พวกเขา
ครั้งหนึ่งเมื่อท้องพระโรงของโซโลมอนมี การชุมนุมอย่างยิ่งใหญ่
โซโลมอนสังเกตเห็นว่านกฮุดฮุดหายตัวไป จึงกล่าวว่า
“ทำไมฉันจึงไม่เห็นนกอฮุดฮุด
มันหายไปไหน แน่นอน ฉันจะลงโทษมันด้วยการ ลงโทษอย่างสาหัส
หรือฉันจะฆ่ามันอย่างแน่นอน หรือโทษมันนำหลักฐานอันชัดแจ้ง มาให้ฉัน”
มันหายไปชั่วครู่
(แล้วกลับมา) มันกล่าวว่า
“ฉันได้ไปตรวจพบสิ่งที่ท่านไม่รู้
และนำข่าวที่เชื่อถือได้จากเยเมนมายังท่าน ฉันได้พบหญิงคนหนึ่งปกครองพวกเขา
และนางมีทุกสิ่งนางมีบัลลังก์อันใหญ่โต และ ฉันพบว่านางและหมู่ขนของนางสักการบูชาดวงอาทิตย์อื่นจากพระเจ้า
และมาร ร้ายได้ทำให้การงานของพวกเขาเป็นของดีงามแก่พวกเขา และกีดกันพวกเขาออก
จากแนวทางที่ถูกต้อง ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ได้อยู่ในแนวทางที่ลูกต้อง ทำไมพวกเขา
ไม่กราบต่อพระเจ้า ผู้นำออกมาซึ่งสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ในขั้นฟ้าและแผ่นดินทั้งหลาย
และทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเจ้าปิดบัง และสิ่งที่พวกเจ้าเป็ดเผย
ไม่มีพระเจ้าอื่นโดนอกจาก พระองค์ พระเจ้าแห่งบัลลังก์อันยิ่งใหญ่”
โซโลมอนกล่าวว่า
“เราจะคอยดูว่า
เจ้าพูดจริงหรือเจ้าอยู่ในหมู่ผู้กล่าวเท็จ เจ้าจงนำสาส์นของ
ฉันนี่และส่งมันให้พวกเขา แล้วถอยออกห่างออกมา
จงคอยดูว่าพวกเขาจะตอบกลับมาว่าอย่างไร”
เมื่อฮุดฮุดนำสาส์นไปให้ราชินี
ซึ่งขณะนั้นพระนางออกไปเพื่อสักการะดวงอาทิตย์ เมื่อศึกษารายละเอียดในสาส์นแล้ว
ราชินีทรงกล่าวว่า
โอ้หมู่บริวารทั้งหลายเอ๋ย
แน่แท้ สาส์นอันมีเกียรติถูกนำมาพาฉันแท้จริงมัน มาจากโซโลมอน และสาส์นนี้เริ่มว่า
ด้วยพระนามของพระเจ้า ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาเสมอ”
พระนางทรงกล่าวอีกว่า
“โอ้หมู่บริวารทั้งหลายเอ๋ย
จงให้ข้อดีขาดแก่ฉันในเรื่องของฉัน ฉันไม่อาจ จะตัดสินใจในกิจการโด
จนกว่าพวกท่านจะอยู่ร่วมด้วย พวกเขากล่าวว่า เราเป็น พวกที่มีพลัง
และเป็นพวกที่มีกำลังรบเข้มแข็ง สำหรับพระบัญชานั้นเป็นของ พระนาง ดังนั้น
พระนางได้โปรดตรึกตรองดูสิ่งใดที่พระนางจะทรงบัญชา”
พระนางทรงกล่าวว่า
“แท้จริงเหล่ากษัตริย์นั้น
เมื่อเข้าไปในเมืองใดก็ทำลายมัน และทำให้บรรดา
ผู้มีอำนาจของเมืองนั้นเป็นผู้ต่ำต้อย และเช่นนั้นแหละพวกเขากระทำกัน และแท้
จริงฉันจะส่งของกำนัลไปให้พวกเขา แล้วฉันจะเขาคอยดูว่าผู้ที่ถูกส่งไปนั้นจะกลับ
มาอย่างไร”
เมื่อพวกเขาได้เข้าพบโซโลมอนแล้ว
โซโลมอนกล่าวว่า
“พวกท่านจะนำทรัพย์สินมากำนัลแก่เราหรือ
? สิ่งที่อัลลอฮ์ทรงประทานให้ แก่ฉันนั้น ดียิ่งกว่าสิ่งที่พระองค์ประทานให้แก่พวกท่าน
แต่พวกท่านดีใจต่อของกำนัล ของพวกท่าน จงนำมันกลับไปยังพวกเขา เพราะแน่นอน
หากนางไม่ยอมรับรู้ สาส์นของเรา เราจะนำไพร่พลไปยังพวกเขา
โดยที่พวกเขาไม่มีกำลังที่จะต่อต้าน มันได้ และแน่นอน
เราจะให้พวกเขาออกจากที่นั่นอย่างอัปยศ และพวกเขาจะเป็น ผู้ต่ำต้อย”
เมื่อตัวแทนกลับมาพวกเขาได้รายงานสิ่งที่เห็นในท้องพระโรงของโซโลมอน
และบอกพระนางว่าโซโลมอนไม่ได้ปกครองเฉพาะมนุษย์ แต่ยังปกครองญินและสัตว์ ต่างๆ
ด้วย เมื่อราชินีได้ยินดังนั้นจึงยอมสวามิภักดิ์และออกเดินทางมาพบโซโลมอน
เมื่อโซโลมอนรับทราบการตัดสินใจของนาง
จึงกล่าวกับประชาชนของท่านว่า
“โอ้หมู่บริพารทั้งหลายเอ๋ย
ผู้ใดในหมู่พวกท่าน จะนำบัลลังก์ของนางมายังฉัน
ก่อนที่พวกเขาจะมาหาฉันอย่างผู้นอบน้อม”
ควาญะฮ ชัมซุดดีน อะซีมี
เมื่อพระประสงค์ของพระเจ้าที่จะให้โครงการจักรวาลเปลี่ยนไปเป็นวัตถุธาตุเกิดขึ้นในจิตของพระองค์
พระองค์เพียงตรัสว่า “จงเป็น”
โครงการจักรวาลนั้นที่ปรากฏขึ้น ในลำดับและการจัดการต่อไปนี้
หนังสือเล่มหนึ่ง
เปิดขึ้นและแสดงอย่างชัดเจน
หนังสือประกอบด้วยบันทึกที่ถูกเก็บไว้จำนวน
300 ล้าน บันทึก
แต่ละบันทึกที่ถูกเก็บไว้ประกอบด้วยแกแล็กซี่
จำนวน 80,000 แกแล็กซี่
แต่ละแกแล็กซี่มีระบบที่เสถียรกว่า
100,000 ล้านระบบ และระบบที่ไม่เสถียรกว่า 1.2 ล้านล้านระบบ
แต่ละระบบมีดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์บริวารประมาณ
9-13 ดวงต่อระบบ
เป็นเรื่องเข้าใจผิดและถือเป็นการคาดเดา
ที่กล่าวว่า โลกของเราเท่านั้นที่เป็นโลกแห่งการตั้งถิ่นฐานมนุษย์
มีอาณานิคมและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์และญินในทุกๆ