Topics
ตามปกติเมื่อการมีอุเบกขาได้รับการพิจารณา
จะถูกถือว่าเป็นมิติของความ เชื่อมั่น และการพึ่งพาอาศัยที่บุคคลมีต่อพระเจ้า
ความเชื่อมั่นและการพึ่งพาอาศัย แสดงบทบาทในชีวิตของทุกคนพอประมาณ
แต่เมื่อเรามายังคำนิยามและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับมัน
จะสังเกตเห็นว่าสิ่งนี้ก็เหมือนกับพิธีกรรมในการเคารพภักดีอื่นๆ ที่เป็น
เพียงหลุมพรางของคำพูดที่สวยหรูเท่านั้น ความเชื่อมั่นและการพึ่งพาอาศัยหมายกึง
การที่บุคคลผู้หนึ่งควรจะต้องมอบความไว้วางใจในภาระรับผิดชอบของเขาแด่พระเจ้า
แต่ทางปฏิบัติในขอบข่ายการสังเกตเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน
ที่ปล่อยไปอย่างเปล่าประโยชน์ของเรา
ปรากฏว่าเป็นเพียงคำพูดที่ไม่มีความเด่นชัดและทำไม่ได้ โดยทั่ว ไปคนมักคิดว่า
ถ้าเจ้านายของฉันถูกทำให้รำคาญ ฉันก็จะถูกไล่ออก ถูกลดตำแหน่ง
หรือถูกกีดกันจากการสนับสนุนส่งเสริม
นี่คือการสังเกตโดยทั่วไปของเราเช่นกันว่า
เมื่อบางสิ่งบางอย่างให้ผลลัพธ์ ในด้านบวก
เราจะคุยโม้โอ้อวดอ้างว่าเป็นผลงานจากสติปัญญา ความกล้าหาญทาง
ด้านความรู้ของเราเองไม่มีสิ่งอื่นเลย มีตัวอย่างมากมายที่เป็นหลักฐานว่า
ความเชื่อ มั่นและการพึ่งพาอาศัยพระเจ้า
เป็นเพียงถ้อยแถลงที่เป็นข้อสมมุติในส่วนของผู้คน ทั่วไป
ผู้ที่ไม่มีความเชื่อมั่นและพึ่งพาอาศัยพระเจ้า จะยังคงปราศจากการมีอุเบกขา
ในความเป็นจริง ความเชื่อมั่นและการพึ่งพาอาศัยพระเจ้า เป็นห่วงเชื่อมโยงพีเศษ
ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า และผู้ได้รับสิทธิความสัมพันธ์กับพระเจ้านี้ จะได้รับการ
ปลดปล่อยจากความละโมบในโลกียะ บุคคลดังกล่าวจะเปลี่ยนเป็นผู้ที่ไม่สนใจใยดี
และเมินเฉยต่อการช่วยเหลืออนุเคราะห์ของผู้อื่น เขากลายเป็นผู้ตระหนักใน
คุณลักษณะของพระเจ้าว่าพระองค์คือผู้ทรงเอกะ ทรงไร้ความกังวล พระองค์ไม่ทรง
ให้กำเนิดและไม่ทรงถูกกำเนิดและพระองค์ไม่มีครอบครัวในขอบข่ายของคุณลักษณะ
เหล่านี้ของพระเจ้า เมื่อเราตรวจสอบดูสิ่งถูกสร้าง เราพบว่าบรรดาสิ่งถูกสร้างไม่
สามารถเป็นหนึ่งเดียวได้ พวกเขาต้องมีจำนวนมากมาย ยากจนขัดสนในโภคทรัพย์ ที่จะสนองตอบความปรารถนาและความต้องการของชีวิต
ยังมีลักษณะเป็นอาณัติ ของสิ่งถูกสร้างที่จะต้องถูกให้กำเนิด
และเป็นผู้ให้กำเนิดเอง
และการมีครอบครัวอีกด้วย
เมื่อตัวแทนทั้งห้าเหล่านี้ถูกจิตสำนึกกอลันดารนำมาพิจารณา ก็จะแสดงให้เห็น ว่า
จากคุณลักษณะทั้งห้าเหล่านี้ของพระเจ้า
สิ่งถูกสร้างสามารถมีความสัมพันธ์โดยตรงกับพระองค์เพียงหนึ่งในนั้น
เป็นไปไม่ได้สำหรับสิ่งถูกสร้างที่จะไม่อยู่ในสภาพมากกว่าหนึ่ง
พวกเขาต้อง ถูกให้กำเนิดหรือเป็นผู้ให้กำเนิดเอง พวกเขายังต้องมีครอบครัว
นั่นคือสิ่งถูกสร้าง ไม่สามารถดำเนินการควบคุมคุณลักษณะทั้งสี่ประการนี้ของพระเจ้าได้
แต่สามารถ มีความสัมพันธ์กับพระเจ้าเพียงคุณลักษณะเดียวของพระองค์ นั่นคือ พวกเขา
สามารถเชื่อมความต้องการของตนเองกับพระองค์เท่านั้นด้วยการถอนจิตใจของพวก
เขาออกจากแหล่งอื่นทั้งหมด บุคคลผู้หนึ่งยังอยู่ห่างจากพฤติกรรมในเรื่องความเชื่อ
มั่นและการพึ่งพาอาศัย ถ้าปัจจัยความต้องการของเขา ยังสัมพันธ์อยู่กับสิ่งถูกสร้าง
นอกจากพระเจ้า
ความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณถูกนำสู่การปฏิบัติเพื่อส่งต่อความต้องการ
และ ความปรารถนาของชีวิตไปยังครูผู้ชี้นำทางจิตวิญญาณของเขา และครูก็จะกลายเป็น
ผู้รับผิดชอบต่อความต้องการทั้งมวลของสานุศิษย์ เสมือนบิดามารดารับผิดชอบต่อ
ความต้องการของทารก เว้นเสียแต่ว่า หรือจนกว่าเขาจะไม่มีจิตสำนึกหรือความ
สามารถเพียงพอที่จะดูแลตัวเขาเองได้ พวกเขายังคงครุ่นคิดและฟ้าดูแลบุตรน้อย
ของตนตลอดเวลา ประตูบ้านไม่สมควรจะถูกเปิดทิ้งไว้ เพื่อว่าเด็กจะได้ไม่ออกไปโดย
ไม่ทันสังเกตเห็น ถ้าอากาศเย็นแล้วเขาไม่ได้รับการแต่งตัวให้เหมาะสม
เขาก็จะเป็นหวัด ถ้าเด็กน้อยไม่ได้กินอาหารตามเวลา ครูก็จะกังวลว่า
ทำไมเด็กจึงไม่ได้รับการ ป้อนอาหาร ถ้าเด็กนอนเลยเวลาตื่น พวกเขาก็จะวิตก
ถ้าเด็กนอนไม่หลับ ก็รู้สึก เป็นทุกข์
ทุกคนที่มีบุตรเป็นของตัวเองหรือเห็นน้องสาวน้องขายของตนจะรู้ดีที่เดียว ว่า
บิดามารดาเป็นผู้รับผิดชอบต่อความต้องการทั้งหมดของลูก และความรับผิดชอบ
คือสนองตอบต่อความต้องการจนสมใจอยากของลูกโดยที่สานุศิษย์หรือนักเรียนเป็น
บุตรทางจิตวิญญาณของผู้สอนหรือครู (เชคหรือมูรอด) ดังนั้น เขาจึงกลายเป็นผู้
รับผิดชอบต่อความต้องการทางโลก ทางศาสนาและทางจิตวิญญาณของสานุศิษย์
เมื่อความสัมพันธ์พัฒนาเข้มแข็งขึ้น จิตใจของผู้สอนก็จะเคลื่อนย้ายไปยังสานุศิษย์
สอดคล้องกัน และเขาได้ตระหนักโดยจิตใต้สำนึกว่าผู้ที่ดูแลเขานั้น ตัวผู้นั้นเองอยู่
ภายใต้การดูแลของพระเจ้าและจิตใจของเขาค่อยๆได้รับการปลดปล่อย รวมทั้งความ
ต้องการและความปรารถนาทั้งมวลของเขา เปลี่ยนเป็นมีความสัมพันธ์กับพระ
ควาญะฮ ชัมซุดดีน อะซีมี
เมื่อพระประสงค์ของพระเจ้าที่จะให้โครงการจักรวาลเปลี่ยนไปเป็นวัตถุธาตุเกิดขึ้นในจิตของพระองค์
พระองค์เพียงตรัสว่า “จงเป็น”
โครงการจักรวาลนั้นที่ปรากฏขึ้น ในลำดับและการจัดการต่อไปนี้
หนังสือเล่มหนึ่ง
เปิดขึ้นและแสดงอย่างชัดเจน
หนังสือประกอบด้วยบันทึกที่ถูกเก็บไว้จำนวน
300 ล้าน บันทึก
แต่ละบันทึกที่ถูกเก็บไว้ประกอบด้วยแกแล็กซี่
จำนวน 80,000 แกแล็กซี่
แต่ละแกแล็กซี่มีระบบที่เสถียรกว่า
100,000 ล้านระบบ และระบบที่ไม่เสถียรกว่า 1.2 ล้านล้านระบบ
แต่ละระบบมีดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์บริวารประมาณ
9-13 ดวงต่อระบบ
เป็นเรื่องเข้าใจผิดและถือเป็นการคาดเดา
ที่กล่าวว่า โลกของเราเท่านั้นที่เป็นโลกแห่งการตั้งถิ่นฐานมนุษย์
มีอาณานิคมและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์และญินในทุกๆ